DTC ลงทุนซื้อ รร.ในมัลดีฟส์รวม 77 ล้านเหรียญฯ พร้อมมองหาผู้ร่วมทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 2, 2011 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสินี เธียรประสิทธิ์ เลขานุการบริษัท บมจ. ดุสิตธานี (DTC)แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2554 วันที่ 1 มิถุนายน 2554 มีมติอนุมัติในหลักการให้ บมจ.ดุสิต ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าลงทุนในกิจการโรงแรมที่เกาะ Mudhdhoo สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และอนุมัติการจ่ายเงินมัดจำในวันที่ 2 มิถุนายน 2554 จำนวน 500,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาท ให้กับ Coastline Hotels & Resorts Private Limited เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการจะประเมินค่าและเข้าซื้อโครงการรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ในเกาะ Mudhdhoo, Baa Atoll ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 186,000 ตารางเมตร

โครงการดังกล่าวมีสิ่งปลูกสร้างประกอบวิลล่า 100 หลัง อาคารสปา 1 หลัง ห้องอาหารและบาร์รวม 3 ห้อง รวมถึงงานสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับกิจการรีสอร์ท โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 80 พร้อมสิทธิการเช่าระยะเวลา 33 ปี ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2587 เป็นเงิน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินมัดจำที่ชำระนี้ไม่สามารถเรียกคืนได้ แต่หากมีการซื้อขายเกิดขึ้นเงินมัดจำดังกล่าวจะถูกหักออกจากยอดชำระเงินค่าซื้อโครงการงวดสุดท้าย

และหลังจากการเข้าซื้อโครงสร้างโรงแรมแล้วบริษัทจะต้องใช้งบประมาณลงทุนเพิ่มเพื่อให้โรงแรมแล้วเสร็จ และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเปิดดาเนินการอีกประมาณ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมเป็นการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 77 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการโดยละเอียด

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการหาผู้ร่วมลงทุนโดย บมจ.ดุสิต ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ จะเข้าร่วมลงทุนในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และหากผู้เข้าร่วมลงทุนเป็นบุคคลเกี่ยวโยง บริษัทจะปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกากับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทารายการที่เกี่ยวโยงกัน

สำหรับ การที่บริษัทเลือกลงทุนในสาธารณรัฐมัลดีฟส์นั้น เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดการท่องเที่ยวของสาธารณรัฐมัลดีฟส์ถือว่าเป็นตลาดที่มีความเติบโตและแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจโลกจะประสบปัญหาทางการเงินใน 2 ปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากจานวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นเพียงสัดส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ยิ่งไปกว่านั้นตลาดรีสอร์ทระดับ 5 ดาวในสาธาณรัฐมัลดีฟส์สามารถขายราคาห้องเฉลี่ยได้ราคาสูง อีกทั้งอัตราการเข้าพักก็ยังอยู่ในระดับที่สูงอีกด้วย

นอกจากนี้การที่สาธารณรัฐมัลดีฟท์มีสภาพภูมิอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี โครงการจึงมีโอกาสที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อันจะทำให้ผลประกอบการโดยรวมของโครงการอยู่ในระดับค่อนข้างดี และยังส่งผลดีต่อบริษัทแม่ในแง่รายได้ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นโครงการดังกล่าวยังสามารถช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานโรงแรมของบริษัทไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ