นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการบมจ. สตีล อินเตอร์เทค (STEEL) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดประชุมคณะกรรมการบริษัท(กรณีเร่งด่วน) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2554 ซึ่งมีมติอนุมัติการขอยกเลิกสัญญาจองซื้อหุ้นฉบับลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ( สัญญาจองซื้อหุ้น ) จากบริษัท ไทยฟ้า พาวเวอร์ จำกัด
และ อนุมัติมอบหมายให้นางสาววันดี กุญชรยาคง และ/หรือ คณะกรรมการของบริษัทฯ และ/หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทฯ หรือกรรมการผู้มีอำนาจมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาดำเนินการเข้าทำเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อยกเลิกสัญญาจองซื้อหุ้นกับไทยฟ้า และเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาดำเนินการสรรหาผู้ลงทุนรายใหม่ต่อไป
เนื่องจากแหล่งเงินทุนของบริษัท สำหรับการซื้อทรัพย์สินเพื่อการดำเนินธุรกิจพัฒนาโซล่าฟาร์มของบริษัท โซล่า เพาเวอร์ (บุรีรัมย์ 2)จำกัด บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 3) และ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 4) จำกัด ยังไม่มีความแน่นอน คณะกรรมการจึงได้อนุมัติรับรองเฉพาะการได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 1)จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่าวันที่ 10 มิ.ย.บริษัท ไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัด ได้ทำหนังสือแจ้งว่ามีข้อจำกัดบางประการ ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจองซื้อหุ้นได้ และร้องขอให้บริษัทฯ ยกเลิกสัญญาจองซื้อหุ้นลงวันที่ 12 พ.ค.54 ดังกล่าว
ก่อนหน้าคณะกรรมการบริษัทฯได้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ 15,000,000 หุ้น ให้แก่บริษัท ไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัด ในราคา 22.78 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด โดยบริษัท ไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัดจะชำระราคาจองซื้อหุ้นทั้งหมดให้แก่บริษัทฯ ในวันที่ 17 มิ.ย.54 และบริษัท ไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัด มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลจำนวนไม่เกิน 1 ท่าน เพื่อให้บริษัทฯเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการของบริษัทฯ
คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้จัดประชุม ครั้งที่ 10/2554 (กรณีเร่งด่วน) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2554 และมีมติเห็นชอบว่า บริษัทฯ จะไม่เสนอวาระที่ 11 นี้ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาและอนุมัติโดยให้ประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้นแจ้งแก่ผู้ถือหุ้นในที่ประชุมนั้นว่า ไม่มีเหตุที่ผู้ถือหุ้นจะต้องพิจารณาและออกเสียงลงคะแนนในวาระที่ 11 เนื่องจากบริษัทฯ กำลังดำเนินการยกเลิกสัญญาจองซื้อหุ้นฉบับลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ตามที่บริษัท ไทยฟ้า เพาเวอร์ จำกัดร้องขอ
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯ สามารถหาผู้ลงทุนรายใหม่ได้ ซึ่งจะมิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน และ/หรือประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการบริษัทฯ จะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในคราวหน้าพิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ลงทุนต่อไป
ส่วนวาระที่ 12 พิจารณาอนุมัติการซื้อทรัพย์สินสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อยของบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯนั้น สืบเนื่องจากการที่บริษัทย่อยจำนวน 3 บริษัท ของ เอสพีซี กล่าวคือ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (บุรีรัมย์ 2) จำกัด บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 3) และ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 4) จำกัด ( บริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัท ) จะเข้าซื้อทรัพย์สินสำหรับการดำเนินธุรกิจพัฒนาโซล่าฟาร์มจำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการละประมาณ 700,000,000 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งหมดไม่เกิน 2,100,000,000 บาท
โดยบริษัทฯจะนำเงินทุนที่ได้รับจากการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงตามวาระที่ 9 และ 11 ข้างต้น ไปให้เงินกู้แก่ เอสพีซี เพื่อที่ เอสพีซี จะได้นำเงินกู้ดังกล่าวไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัท เป็นเงินจำนวนประมาณ 107,000,000 บาทต่อบริษัท หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 321,000,000 บาท โดย เอสพีซี มีความประสงค์จะถือหุ้นในบริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัท ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัทย่อยทั้ง 3 บริษัท
คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้จัดประชุม ครั้งที่ 10/2554 (กรณีเร่งด่วน) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2554 และมีมติเห็นชอบว่า บริษัทฯ จะไม่เสนอวาระที่ 12 นี้ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาและอนุมัติด้วย