นายชวลิต หวังธำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ผลธัญญะ (PHOL) แจ้งว่า ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 7/2554 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2554 มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยบริษัทฯจะมีการทำสัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้นของบริษัทย่อยจากบริษัทฯ กับนายสุรพล หังสพฤกษ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทย่อยโดยรายการดังกล่าวถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันประเภทให้ความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยจะดำเนินการภายใน 21 มิถุนายน 2554 ซึ่งสัญญาการให้สิทธิการซื้อหุ้นมีระยะเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ100 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทย่อยโดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิม แต่เนื่องจากผู้ถือหุ้น คือ นายสรุพล หังสพฤกษ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีความสำคัญในการดำเนินงานของบริษัทย่อยไม่สามารถซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของตนได้ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติให้ทำการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทย่อยในส่วนของบริษัทและส่วนที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยไม่ประสงค์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ดังนี้
1.การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมก่อนการเพิ่มทุนของบริษัทย่อยซึ่งเท่ากับร้อยละ 60 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งเท่ากับ 60,000 หุ้น ในราคาเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ซึ่งเท่ากับหุ้นละ 100 บาทคิดเป็นจำนวนเงิน 6,000,000 บาท
2.การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินสัดส่วนการถือหุ้นเดิมก่อนการเพิ่มทุนของบริษัทย่อย ในสัดส่วนร้อยละ 25 ของหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งเท่ากับ 25,000 หุ้น ในราคาเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ซึ่งเท่ากับหุ้นละ 100 บาทคิดเป็นจำนวนเงิน 2,500,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯจะมีการทำสัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้นของบริษัทย่อยในจำนวน 25,000 หุ้น กับนายสุรพล หังสพฤกษ์ ซึ่งเดิมถือหุ้นในบริษัทย่อยเท่ากับร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียนเดิมก่อนการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ โดยสัญญามีระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันลงนามในสัญญา (21มิถุนายน 2554) คือตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2554 ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2556 โดยกำหนดราคาซื้อหุ้นเท่ากับมูลค่าตามบัญชี (Book Value) ของงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบหรือสอบทานของผู้สอบบัญชีงวดล่าสุด หรือมูลค่าที่ตราไว้ ของหุ้นสามัญ(ราคา Par) ณวันที่ผู้รับสิทธิแจ้งความประสงค์ซื้อหุ้นเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงผู้ให้สิทธิแล้วแต่ว่าราคาใดจะสูงกว่าเป็นเกณฑ์ในการซื้อหุ้น และมีต้นทุนทางการเงินในอัตราร้อยละ 7.125 ต่อปี ของมูลค่าเงินลงทุน 2,500,000บาท