บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) ชี้แจงเกี่ยวกับการขายหุ้นที่ซื้อคืน 41,232,800 หุ้นที่บริษัทรายงานว่าวันที่ 30 พ.ค.54 ได้จำหน่ายหุ้นทั้งหมดแล้ว ขายราคาระหว่าง 1.93-1.98 บาท/หุ้น และปรากฏข้อมูลว่าในวันเดียวกัน บมจ.พี พลัส พี (PLUS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 40.70% แจ้งการซื้อหุ้น EPCO จำนวน 38,749,900 หุ้น คิดเป็น 93.98% ของจำนวนหุ้นซื้อคืนทีนำออกมาจำหน่าย หรือร้อยละ 74.78 ของปริมาณหุ้น EPCO ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมดในวันดังกล่าว (51,819,100 หุ้น) โดยมีราคาสูงสุดที่ได้มา 1.94 บาทต่อหุ้น แต่ EPCO ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนด ก.ล.ต.
EPCO ยืนยันว่าโดยการขายหุ้นดังกล่าว เป็นการขายผ่าน บล. ฟินัสเซีย ไซรัส และขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยวิธีการสั่งขายจำนวนหุ้นที่วางแผนว่าจะขายในแต่ละครั้ง นายวีระ เหล่าวิทวัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้มีอำนาจในการสั่งขาย ติดต่อการสั่งขายทางโทรศัพท์ มีการตั้งขาย และ ขายตามที่มีผู้เสนอซื้อที่กรอบราคาตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ โดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ มีการทยอยขายโดยเริ่มตั้งแต่ 5,000 หุ้น ถึง 2,000,000 หุ้น จำนวนครั้งที่ขาย 93 ครั้ง
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้เลือกการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งเป็นไปตามอุปสงค์และอุปทานตามกลไลตลาด ผู้ขายไม่สามารถทราบชื่อของผู้เสนอซื้อ (Bid) ได้ อีกทั้งบริษัทได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และประชาชนทั่วไปได้รับทราบกำหนดเวลา และราคาที่จะมีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนให้ทราบล่วงหน้าแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน เพื่อให้ผู้สนใจลงทุนได้เสนอซื้อเข้ามา ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการจึงเชื่อว่าจะสามารถจำหน่ายหุ้นดังกล่าวแก่นักลงทุนโดยทั่วไปได้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบยังไม่ได้มีความเห็นในเรื่องเกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัทภายในวันเดียว โดยมีผู้ซื้อบางส่วนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EPCO โดยภายหลังการทำรายการคณะกรรมการ ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ซื้อหุ้นดังกล่าวไป จนกระทั่งได้รับทราบข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ว่า PLUS ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ว่ามีการซื้อหุ้นเพิ่ม ทั้งนี้คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบจะดำเนินการประชุมภายในเดือน มิ.ย.นี้
สำหรับการขายหุ้นในวันที่ 30 พ.ค.54 ราคาซื้อขายเฉลี่ย 1.94 บาท/หุ้น เป็นการขายตามราคาและปริมาณที่มีผู้เสนอซื้อ (Bid) ซึ่งต้องเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด ตามหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาขายของตลาดหลักทรัพย์ คือ ราคาปิดของหุ้นสามัญของบริษัทเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้านั้น หักด้วยจำนวนร้อยละ 15 ของราคาปิดเฉลี่ย มีราคาต่อหุ้นที่ 1.68 บาท และไม่ต่ำกว่าราคาทุนเฉลี่ย คือ 1.79 บาท และเป็นการทยอยขายที่ราคาเริ่มต้น 1.98 บาทแล้วปรับลดลงบ้างตามภาวะตลาด และอุปสงค์อุปทานที่มี
ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรจากการจำหน่ายหุ้นทั้งหมดจำนวนเงิน 6.02 ล้านบาท และบริษัทฯพยายามมิให้มีผลกระทบกับราคาหุ้นในตลาดมากนัก โดยในการทำรายการซื้อขายนั้นบริษัทไม่สามารถทราบได้ว่าผู้เสนอซื้อนั้นเป็นใคร