SIRI เผยH1/54 ทำยอดขายได้1.2 หมื่นลบ.,H2/54 เล็งเปิด 16 โครงการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 5, 2011 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ(SIRI)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม SIRI ช่วงครึ่งแรกของปี 54 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งโครงการคอนโดมิเนียมในย่านธุรกิจกลางใจเมือง รวมทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ทั้งที่ไม่มีมาตรการลดหย่อนภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ไตรมาส 2/54 สามารถปิดยอดขายได้ที่ 6,700 ล้านบาท จากไตรมาส 1/54 ที่มียอดขายรวมกว่า 5,300 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายได้ถึง 12,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 46 % ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 26,000 ล้านบาท จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่ม SIRI จะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยปี 2554 ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

"สถานการณ์ทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งน่าจะเริ่มคลี่คลายและมีเสถียรภาพมากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้น (ปลายปี 53) เรามองว่าการเมืองจะเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ส่วนเศรษฐกิจจะสวนทางกับภาวะการเมือง โดยเฉพาะช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งก็ปรากฎว่าภาพรวมเป็นไปตามที่คาดการณ์ รวมทั้งลูกค้าก็มีความเชื่อมั่นและให้การตอบรับกับที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์แสนสิริเป็นอย่างดีต่อเนื่อง"นายเศรษฐา กล่าว

ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/54 ได้แก่ โครงการ CEIL by Sansiri ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60% ส่วนโครงการ The base มียอดขายแล้วถึง 90% และ ดีคอนโด รามอินทรา มียอดขาย 85%

ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวก็ประสบความสำเร็จ ทั้งโครงการเศรษฐสิริ ชัยพฤกษ์ — แจ้งวัฒนะ และโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ — จรัญฯ ที่นำเสนอจุดขายสไตล์ ไทยซีรีย์ ซึ่งเปิดตัวการขายในช่วงไตรมาส 1/54 มีการตอบรับที่ดี โดยโครงการเศรษฐสิริ ชัยพฤกษ์ — แจ้งวัฒนะนั้น ใกล้ปิดการขายในเฟสแรกจำนวน 84 ยูนิตแล้ว เตรียมเปิดการขายเฟสที่ 2 ต่อเนื่องในเร็วๆ นี้ ส่วนโครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ — จรัญฯ มียอดขายพุ่งทะลุเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยขายได้ถึง 90 ยูนิตภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน

และโครงการทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ทาวน์ อเวนิว ทั้ง 3 โครงการในทำเลพระราม 2, ศรีนครินทร์ และพระราม 9 ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

แผนธุรกิจของกลุ่ม SIRI ช่วงครึ่งหลังปี 54 บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะขยายฐานให้เติบโตต่อเนื่อง โดยจะมีเปิดโครงการใหม่อีก 16 โครงการ มูลค่าโครงการราว 22,000 ล้านบาท รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 9 โครงการ มูลค่าการขายรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท และยังมีแผนการพัฒนาทาวน์เฮาส์อีกประมาณ 2 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ