นายปเนต จงวัฒนา กรรมการและเลขานุการ บมจ.พัฒน์กล (PATKL) แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้รับอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ จากศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 โดยบริษัทดำเนินการลดทุนจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกชำระจำนวน 52.999 ล้านหุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิมทั้งสิ้น 325.230 ล้านหุ้นบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 325.23 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หุ้นละ 1.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 272.23 ล้านบาท
และเมื่อดำเนินการลดทุนแล้วเสร็จ ให้บริษัท ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการแปลงหนี้เป็นทุน จำนวน 600.243 ล้านบาท แบ่งเป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระให้แล้ว จำนวน 494.095 ล้านบาท เพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ ดังนี้
แปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 142.377 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1.00 บาท เป็นเงิน 142.377 ล้านบาท สำหรับ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 7 และเจ้าหนี้รายที่ 223 ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
แปลงหนี้เป็นหุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 79.487 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1.00 บาท เป็นเงิน 79.487 ล้านบาท สำหรับ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 2 และ 4 และแปลงหนี้เป็นใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ 106.148 ล้านหน่วย ในอัตราใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น สามัญ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น สำหรับ เจ้าหนี้รายที่ 223 ธนาคารกรุงเทพ (BBL) อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าหนี้บางรายที่อยู่ระหว่างโต้แย้งสิทธิ ศาลยังไม่มีคำสั่งถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้
ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุน ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน โดยเจ้าหนี้กลุ่มที่ได้รับการชำระหนี้ โดยการแปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญ มีจำนวน 8 ราย เจ้าหนี้กลุ่มที่ได้รับการชำระหนี้ โดยการแปลงหนี้เป็นหุ้นบุริมสิทธิ มีจำนวน 297 ราย และเจ้าหนี้ที่ได้รับชำระหนี้ โดยแปลงหนี้เป็นใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ มี 1 ราย คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อใหม่ เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน
และหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว โดยวิธีการแปลงหนี้เป็นทุน ตามข้อกำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ มีผลทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุน้ 10 รายแรก มีการเปลี่ยนแปลง โดยธนาคารกรุงเทพ (BBL) ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 โดยถือหุ้น 8.46%