บมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส(INOX) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติขายที่ดินและทรัพย์สินที่มิใช่สินทรัพย์หลักของบริษัทฯ (Non-Production Land and Assets) ให้กับ นายประยุทธ มหากิจศิริ ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ในราคาไม่ต่ำกว่าจำนวนรวม ของร้อยละ 95ของมูลค่าทางบัญชี (Book value) ของธุรกิจดังกล่าวข้างต้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ซึ่งมีมูลค่า 2,371.65 ล้านบาท และ ต้นทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด
และมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มที่เกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ดังกล่าวที่บริษัทฯ ได้จ่ายชำระไปภายหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2553 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 มีมูลค่าประมาณ 51.05 ล้านบาท ดังนั้นมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนคำนวณจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 มีมูลค่ารวมประมาณ 2,304.12 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาซื้อขายที่แน่นอนจะถูกคำนวณจนถึงวันที่ซื้อขาย โดยกำหนดชำระราคาในวันทำการที่ 3 นับจากวันที่การซื้อขายที่ดินและทรัพย์สินที่มิใช่สินทรัพย์หลักของบริษัทฯ ระหว่าง บริษัทฯและนายประยุทธ มหากิจศิริสำเร็จลง
ทั้งนี้ ที่ดินและทรัพย์สินที่มิใช่สินทรัพย์หลัก ประกอบด้วย (1) ที่ดินเปล่า จำนวน 2 แปลง ตั้งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 4 และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (2) สนามกอล์ฟ MOUNTAIN CREEK GOLF RESORTS & RESIDENCE โดยธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินกิจการโดยบริษัทฯในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและดำเนินกิจการสนามกอล์ฟและที่พัก (Golf Course Resort)และเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงที่ดินและอาคาร (รวมถึง กรรมสิทธิ์สิทธิครอบครอง และผลประโยชน์ในที่ดินและอาคารดังกล่าว) พนักงาน ทรัพย์สิน (รวมถึง กรรมสิทธิ์สิทธิครอบครอง และผลประโยชน์ในทรัพย์สินดังกล่าว) ทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ ความรับผิด และสมาชิกของสนามกอล์ฟซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา
เนื่องจากการขายที่ดินและทรัพย์สินที่มิใช่สินทรัพย์หลักของบริษัทฯดังกล่าวเป็นการทำรายการกับนายประยุทธ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทฯ อีกทั้งครอบครัวมหากิจศิริยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ (ถือหุ้น ร้อยละ 59.93) จึงถือว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยที่นายประยุทธ อาจมอบหมายให้นิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด เข้าทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินแทนตน
บริษัท แจ้งว่า การขายครั้งนี้ เพื่อเป็นการมุ่งเน้นในธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดยลดการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้บริษัทฯสามารถบรรลุเงื่อนไขการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการที่ราคา 2.20 บาทต่อหุ้น โดยสมัครใจของ POSCO Ltd. อีกทั้งจะทำให้บริษัทฯได้ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับบริษัทฯได้
อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาของบริษัทฯ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่บริษัทฯ มีข้อจำกัดของกฎหมายในเรื่องการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว ภายหลังจากที่ POSCO Ltd. จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน โดยเงินที่ได้รับจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน