นายเกรียงศักดิ์ กังวานวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2554 วันที่ 21 กรกฎาคม 2554 ได้รับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการดำเนินการตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีกับ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จากัด ได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนในสัญญาฯ ครบถ้วน ทั้ง 2 ประการ คือ ดำเนินการออกอากาศส่วนกลางและส่วนภูมิภาคครบตามกำหนดเวลาในสัญญาโดยไม่ผิดสัญญา และปรับปรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้การออกอากาศได้กระทำกันต่อเนื่องและใช้การได้ดีเสมอในวงเงินไม่ต่ากว่า 50 ล้านบาท โดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด จะต้องเสนอโครงการปรับปรุงให้ บมจ. อสมท เห็นชอบเสียก่อน สัญญาฯ ดังกล่าว ย่อมขยายระยะเวลาออกไปอีก 10 ปี ทันที
และเมื่อสัญญาฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 3 มีการกำหนดค่าตอบแทนไว้ชัดเจนแล้วการเจรจาผลประโยชน์ตอบแทนจำนวน 405 ล้านบาท กับบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จากัด เป็นเรื่องนอกเหนือสัญญาฯ และไม่เกี่ยวกับการขยายระยะเวลาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีออกไปอีก 10 ปี จึงไม่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ยังเห็นชอบบันทึกข้อตกลงระหว่าง บริษัท กับ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จากัด ให้ บมจ. อสมท รับผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มจานวน 405 ล้านบาท จากบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัดได้ และมอบให้ฝ่ายบริหารของบริษัทดำเนินการนัดหมายรับค่าตอบแทนดังกล่าวต่อไป
ล่าสุด บมจ. อสมท (MCOT) แจ้งว่าในวันนี้บริษัทมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ในการดำเนินการตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สี โดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด จ่ายเพิ่มผลประโยชน์ตอบแทนนอกเหนือสัญญาให้บริษัท เป็นจำนวนเงิน 405 ล้านบาท MCOT จะรับรู้เป็นรายได้ทั้งจำนวนในคราวเดียวกันในไตรมาส 3/54