นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร(TK) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตมากกว่า 10% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากบริษัทได้มีการปรับเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้จาก 10% เป็น 20% เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ที่คาดว่าปีนี้จะมียอดขายทะลุ 2 ล้านคัน จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อของประชาชนสูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำให้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถจักรยานยนต์
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดสาขาเพิ่ม โดยปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง ซึ่งได้เปิดสาขาใหม่ 1 แห่ง จากปัจจุบันมีสาขา 78 แห่ง นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมรับมือการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ โดยขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อออกหุ้นกู้ จำนวน 2,000 ล้านบาท เป็นดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว รองรับรับการแข่งขัน และยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีกมากกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายพอร์ตสินเชื่อรองรับการขยายตลาด และเพื่อซื้อกิจการ หรือร่วมทุน เพื่อสร้างผลกำไรต่อบริษัทในอนาคต
นางสาวปฐมา กล่าวว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ารายได้เติบโตเป็น 12-13% จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 10% เนื่องจากเชื่อว่าตลาดรถยนต์ปีนี้จะเติบโตเกิน 2.1 ล้านคัน สูงเท่ายอดขายในปี 49 เห็นได้จากครึ่งปีแรกมียอดขายแล้วกว่า 1 ล้านคัน เป็นผลจากราคาสินค้าเกษตรที่สูงทำให้รายได้ประชาชนสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท โดยสินเชื่อใหม่ทั้งปีคาดว่าอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 5,000 ล้านบาท
ขณะที่กำไรสุทธิมองว่าปีนี้จะเติบโตเป็นเลข 2 หลักได้ โดยไตรมาส 2/54 กำไรจะสูงกว่าไตรมาส 1/54 ขณะที่ปลายไตรมาส 3/54 ถึงต้นไตรมาส 4/54 จะมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากการเข้าซื้อกิจการเซทเทเลม และขณะนี้บริษัทได้เข้าไปศึกษากลุ่มลูกค้าของเซลเทเลมเพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดว่าจะเห็นความชัดเจนหลังแผนการเข้าลงทุนในต่างประเทศ เช่น ที่เวียดนาม ที่จะมีข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปี 55 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการลงทุนในต่างประเทศ
"ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ดีของเรา เพราะการที่ราคาสินค้าเกษตรดี เราก็ได้รับผลดีไปด้วย และนโยบายรัฐบาลจะกระตุ้นกำลังซื้อให้ได้อีก ไตรมาส 4 ก็เป็นหน้าขายรถมอเตอร์ไซค์ และฮอนด้าจะออกรถรุ่นใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ก็ยิ่งสนับสนุนให้ดีขึ้นอีก... สเปรดตอนนี้ อยู่ 30% ไม่มีผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะมีการล็อคต้นทุนดอกเบี้ยของต้นทุนเงินกู้ไว้หมดแล้ว"นางสาวปฐมา กล่าว