บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2554 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 ให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากจำนวน 7,557.766 ล้านบาท เป็น 3,648.024 ล้านบาท โดยการยกเลิกหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่ายจำนวน 3,909.747 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท (ยกเว้นหุ้นสามัญสำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ออกไปแล้วและยังคงเหลืออยู่จำนวน 1,204.432 ล้านหุ้น)
และเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก จำนวน 3,648.024 ล้านบาท เป็นจำนวน 7,557.772 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน3,909.747 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 3,909.747 ล้านบาท เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิมมีสิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่ 1.6 หุ้นในราคาหุ้นละ 1 บาท เศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง โดยผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิที่ตนมี
ผู้ถือหุ้นเดิมที่จะมีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญออกใหม่นี้จะต้องเป็นผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของบริษัท ณ วันที่ 22 กันยายน 2554 (Record Date) โดยบริษัทจะรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าว ตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 23 กันยายน 2554
อนุมัติให้นำหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น จัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงดังต่อไปนี้ นายสดาวุธ เตชะอุบล นายบี เตชะอุบล นายเบน เตชะอุบล นางหลุยส์ ดิศกุล ณ อยุธยา นายทอมมี่ เตชะอุบล และนางสาวจุรีพร กวีวิโรจน์กุล (กลุ่มผู้ถือหุ้น LDG) ในจำนวนไม่เกิน 3,700 ล้านหุ้นในราคาจองซื้อหุ้นละ 1 บาท และอนุมัติการผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้น LDG (Whitewash) อันเนื่องมาจากการที่กลุ่มผู้ถือหุ้น LDG ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ Acting in Concert ร่วมกันในครั้งนี้จะจองซื้อหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามส่วน และอาจส่งผลให้กลุ่มผู้ถือหุ้น LDG ถือหุ้นในบริษัทเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเพิ่มทุน
ทั้งนี้สัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออกเสียงขั้นสูงสุดที่กลุ่มผู้ถือหุ้น LDG จะถือและมีได้ในบริษัทภายหลังการจองซื้อหุ้นที่ไม่ได้มีการจองซื้อโดยผู้ถือหุ้นจะต้องไม่เกินร้อยละ 67.61 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเพิ่มทุน ทุน ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออกเสียงขั้นสูงสุดของกลุ่มผู้ถือหุ้น LDG ในบริษัทที่กำหนดไว้ข้างต้นนั้นอยู่ภายใต้สมมุติฐานว่า ไม่มีผู้ถือหุ้นเดิมรายใดใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้น 3,909.747 ล้านหุ้น ในครั้งนี้
กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน กำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2554 ในวันที่ 13 กันยายน 2554
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เพื่อนำไปใช้ชำระค่าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัทแลนด์มาร์ค ดีเวลล็อปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด และเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเงินลงทุนของบริษัท