(เพิ่มเติม) บลจ.บัวหลวงร่วม 4 พันธมิตรค้าทอง เปิดกองทุน "BCHAY"ลงทุนทองแท่งในปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 27, 2011 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวศิน วัฒนวลกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับ 4 พันธมิตรผู้ค้าทองคำ ได้แก่ บริษัท ห้างทองจินฮั้วเฮง จำกัด บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัซ จำกัด บริษัท ออสสิริส จำกัด และ บริษัท วาย แอล จี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดตัวกองทุนบัวหลวง เชโกลด์ อีทีเอฟ (BCHAY) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 96.5%) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกองทุน

บริษัทจะนำหน่วยกองทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังเปิดเสนอขายครั้งแรก เพื่อให้ผู้สนใจสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้ คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนดังกล่าวได้ภายในไตรมาส 3/54 มูลค่ากองทุนราว 4,000 ล้านบาท ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นมีนักลงทุนสนใจแล้วประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท

จุดเด่นของกองทุนมีความเข้าใจง่าย เพราะเป็นการซื้อขายทองคำแท่งจากร้านขายทองในประเทศ และหน่วยลงทุนมีสภาพคล่อง เนื่องจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และมีปัจจัยเอื้อต่อการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในระยะยาว ทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศ Emergine Market เช่น จีน อินเดีย รวมทั้งแรงผลักดันจากภาวะเงินเฟ้อและความแน่นอนของการคลี่คลายปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศยุโรปและสหรัฐ

นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยคาดว่าราคาทองคำโลกสิ้นปีนี้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,700 เหรียญฯ/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศมีสิทธิแตะบาทละ 23,000 บาท เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรป แม้ว่าในที่สุดแล้วเชื่อว่าสหรัฐจะปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้และชำระหนี้ได้ตามกำหนด แต่ปัญหายังไม่หมดไป ส่วนปัญหาหนี้ในยุโรปมีโอกาสลุกลามไปประเทศอื่น

อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีปรับขึ้นมาค่อนข้างแรง จึงแนะนำให้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ห้างทองจินฮั้วเฮง จำกัด ในฐานะนายกสมาคมผู้ค้าทองคำ กล่าวว่า ในช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นมาเกือบ 5% ขณะที่ตลาดโลกปรับขึ้นไปแล้วถึง 10% เป็นผลจากเงินบาทแข็งค่า แต่เชื่อว่าทิศทางราคาทองคำในปีนี้ยังเป็นขาขึ้น คาดว่าราคาทองคำในตลาดโลก ณ สิ้นปีจะอยู่ที่ 1,650 เหรียญฯ/ออนซ์

แต่อาจจะมีการปรับคาดการณ์อีกครั้งหลังวันที่ 2 ส.ค.เพื่อรอดูการชำระหนี้ของสหรัฐ หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ ราคาทองคำก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก ถ้าสามารถชำระหนี้ได้ราคาทองคำก็อาจจะลดลง แต่คงไม่มาก มองว่าเป็นจังหวะเข้าซื้อในช่วงที่ราคาอ่อนตัว

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วาย แอล จี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในปีนี้หากมีการปรับลงมาก็ไม่น่าจะหลุดแนวรับที่ 1,480 เหรียญฯ/ออนซ์ จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 1,620 เหรียฯ/ออนซ์ หากสหรัฐสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ราคาทองคำก็มีโอกาสปรับตัวลงราว 100 เหรียญฯ/ออนซ์ แต่ในระยะยาวราคามทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะปัญหาหนี้สหรัฐและยุโรปยังไม่จบง่าย ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ