KTC เผย Q2/54 NIM เพิ่มขึ้นเป็น 13.5% ฐานสมาชิกเติบโต 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 10, 2011 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า ฐานะทางการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 48,172 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้การค้า 91% ของสินทรัพย์รวม ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการสร้างรายได้ให้บริษัทฯ พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 44,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 42,689 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

ฐานสมาชิกรวม 2.4 ล้านบัญชี เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,798,518 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 32,122 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช" เท่ากับ 556,578 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 11,530 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเติบโตที่ 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ใกล้เคียงกลุ่มนอนแบงค์

ในครึ่งปีแรกของปี 2554 บริษัทฯ กำไรสุทธิ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมเพิ่มอยู่ที่ 6,222 ล้านบาท มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) ทั้งสิ้น 22,290 ล้านบาท และมีต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเฉลี่ยเท่ากับ 4.75% ลดลงจาก 4.81% ณ สิ้นปี 2553 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) เพิ่มจากสิ้นปีที่ 13.2% เป็น 13.5% และอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ ณ ระดับ 6.36 เท่า ลดลงจาก 6.42 เท่า ณ สิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนของการออกหุ้นกู้ที่ต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้ไม่เกิน 10 เท่า

"สภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมายังคงขยายตัวต่อเนื่องในเชิงบวก ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงต่างเสนอสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการให้สินเชื่อที่ผ่อนคลายลง เพื่อรักษาฐานลูกค้าภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยกลุ่มนอนแบงค์ใช้ข้อได้เปรียบจากความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการกระจายจุดให้บริการสินเชื่อตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยใช้กลยุทธ์ด้านราคา ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรุกตลาดและขยายฐานรายย่อย และกลุ่มธนาคารต่างประเทศหันมาใช้ช่องทางโซเชียล เน็ตเวิร์ค เพราะมีข้อจำกัดด้านสาขา" นายนิวัติ กล่าว

สำหรับบริษัทในฐานะผู้ประกอบการในกลุ่มนอนแบงค์ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสภาพเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมถึงบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายในประเทศและผลกระทบจากต่างประเทศ โดยได้ปรับวางกลยุทธ์ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมธุรกิจในแต่ละช่วงเวลาอย่างเหมาะสม เพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกของบริษัทฯ

บริษัทฯ จะยังคงเน้นทำการตลาดและสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้สมาชิกได้รับข่าวสารอย่างต่อเนื่องและสร้างความเชื่อมั่นว่าสมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษที่ดีเป็นประโยชน์และแตกต่าง รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่น่าสนใจผ่านสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนบริหารความเสี่ยง และรักษาคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ