นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้รับการแต่งตั้งจากกองทุนสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนเงินกู้นั้น ธนาคารได้เตรียมวงเงินกู้จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ภายใต้โครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
โดยจะเป็นการให้กู้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอันก่อให้เกิดมลพิษ ในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจอื่นๆ เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ปรับปรุงระบบ หรืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับกำจัด บำบัด ตลอดจนควบคุมของเสีย น้ำเสีย และมลพิษให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ โรงงานน้ำตาล โรงงานแป้งมัน โรงงานฟอกย้อม และขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการให้ความสนใจอีกจำนวนมาก
สำหรับเงื่อนไขการกู้ธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำมาก เพียง 2% ต่อปี ในกรณีที่ใช้หนังสือค้ำประกันหรือเงินฝากค้ำประกัน และคิดในอัตรา 3% ต่อปี ในกรณีที่ใช้หลักทรัพย์อื่นค้ำประกัน ในอัตราคงที่เป็นระยะเวลานานถึง 7 ปี โดยใน 2 ปีแรก ผู้กู้ชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น โดยธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ใช้ในการบำบัด ขจัด และรักษาสิ่งแวดล้อม ผู้กู้เพียงใช้รายละเอียดโครงการ แผนการดำเนินงาน งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี และเอกสารทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือน เป็นหลักฐานในการยื่นกู้
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีสินเชื่อกรุงไทยประหยัดพลังงาน เพื่อใช้ในการลงทุนหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการที่ก่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด โดยในปีที่ 1 - 2 คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR-1.0% ต่อปี และปีที่ 3-10 คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี และยังมี โครงการวายุภักษ์อนุรักษ์พลังงาน ให้กู้เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ปรับปรุงโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการอนุรักษ์พลังงาน หรือพลังงานทดแทน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นาน 7 ปี