นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 บริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สายจำนวน 2 บริษัท คือ บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จำนวน 4 แห่งในวงเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 48,940 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อระยะยาวอายุไม่เกิน 10 ปี และสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
การจัดหาสินเชื่อในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนหนี้สินเดิมบางส่วน และ บางส่วนสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยธนาคารผู้ให้กู้ ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารยูโอบี และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCB กล่าวว่า ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนกลุ่มทรูตามยุทธศาสตร์ระยะยาวของกลุ่มในการเป็นผู้นำด้าน Convergence การสนับสนุนธุรกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการให้บริการแบบครบวงจร โดยธนาคารเริ่มจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของกลุ่มธุรกิจไร้สาย (wireless) ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาจัดโครงสร้างทางธุรกิจและทางการเงินที่เหมาะสมเพี่อช่วยให้กลุ่มทรูสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงเป็น Lead Arranger ร่วมกับ KTB ในการจัดหาแหล่งเงินทุนในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการลงทุนเพื่อการให้บริการด้าน 3G
การลงทุนสนับสนุนด้านการเงินจำนวน 48,940 ล้านบาทแก่กลุ่มทรูในครั้งนี้ จะเสริมศักยภาพให้กลุ่มทรูสามารถเดินหน้าให้บริการ 3G ระบบ HSPA อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นการยกระดับพัฒนาไปสู่บรอดแบนด์ไร้สายอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และเป็นประโยชน์แก่กลุ่มทรูซึ่งเน้นยุทธศาสตร์ด้าน convergence มาโดยตลอด
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารสนับสนุนวงเงินสินเชื่อแก่กลุ่มทรู ซึ่งมียุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำด้าน Convergence การลงทุนในครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพธุรกิจสื่อสารไร้สายและบริการ 3G ในประเทศไทยให้ก้าวหน้าครอบคลุมเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสนองตอบความต้องการของประชาชน ผู้บริโภคในการสื่อสาร และเข้าถึงแหล่งความรู้ ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ไร้พรมแดน และเกิดประโยชน์สูงสุด