บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายทั้งหมดจำนวน 305,994,816 หุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิม 611,991,798 หุ้น เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน305,996,982 หุ้น แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 305,996,982 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 305,996,982 หุ้น แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 305,996,982 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 305,996,982 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 611,993,964 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 611,993,964 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ ให้เสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 305,996,982 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนการจองซื้อ 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มโดยอิงกับราคาปิดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7 วันทำการก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น (ราคาตลาด)
กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 และกำหนดวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 19-23 ธันวาคม 2554
กรณีที่ยังคงมีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมให้นำหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งหมดออกจัดสรรและเสนอขาย ให้แก่นักลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงและ/หรือนักลงทุนประเภทสถาบัน โดยจะดำเนินการเสนอขายให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือนหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ มีศักยภาพทางด้านเงินทุน และสามารถตัดสินใจลงทุนกับบริษัทได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการใช้เงินของบริษัท และ/หรือเป็นผู้ลงทุนระยะยาว (Long-term Investor) และ/หรือเป็นผู้ลงทุนที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นได้(Strategic Partners)
วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เพื่อลดภาระหนี้สินของบริษัทประมาณ 150 ล้านบาท และเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและโครงการในอนาคต