นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(บีทีเอสซี) และนายประพันธ์พงษ์ เวชชาชีวะ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ร่วมลงนามในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร
บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร ได้แต่งตั้งให้บีทีเอสซีเป็น ผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) เพื่อการให้บริการเชิงพาณิชย์ โดยให้บีทีเอสซีมีหน้าที่ให้บริการเดินรถ บริหารและบำรุงรักษาส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) ตามมาตรฐานการให้บริการที่ระบุไว้ในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า)
นอกเหนือจากการให้บริการผู้โดยสารในสถานีใหม่ที่เพิ่มขึ้น และบำรุงรักษาระบบทั้งหมดแล้ว บีทีเอสซีจะต้องจัดหารถไฟฟ้ามาให้บริการในส่วนต่อขยายดังกล่าว และจะต้องดูแลรักษาและซ่อมบำรุงขบวนรถไฟฟ้าเหล่านั้นด้วย โดยสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงนี้ บีทีเอสซีจะได้รับค่าจ้างสำหรับการให้บริการทั้งหมดในปีแรกเป็นเงินจำนวน 604 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยส่วนต่อขยายสายสีลมนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 5 ธ.ค.55
อนึ่ง โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) นี้ กรุงเทพมหานครได้เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานโครงสร้างระบบ (Civil Works) และระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (Electrical and Mechanical Works) โดยประกอบด้วย 4 สถานี คือ สถานีโพธิ์นิมิตร สถานีรัชดา-ราชพฤกษ์ สถานีวุฒากาศ และสถานีบางหว้า ระยะทางรวม 5.3 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เมื่อส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) เปิดให้บริการแล้ว รถไฟฟ้าบีทีเอสจะวิ่งให้บริการผู้โดยสารทั้งระบบมีระยะทางรวม 36.25 กิโลเมตร รวม 34 สถานี แบ่งเป็น (1) สายสุขุมวิท จากสถานีหมอชิต — สถานีแบริ่ง จำนวน 22 สถานี ระยะทาง 22.25 กิโลเมตร และ (2) สายสีลม จากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ — สถานีบางหว้า จำนวน 13 สถานี ระยะทาง 14 กิโลเมตร ซึ่งมีสถานีร่วมระหว่างสายสุขุมวิทและสายสีลมที่สถานีสยาม
บีทีเอสซีได้มีการเตรียมความพร้อมและเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารในระบบ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (อ่อนนุช-แบริ่ง) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา และการเปิดให้บริการประชาชนของส่วนต่อขยายสายสีลม (วงเวียนใหญ่-บางหว้า) ในอนาคต
เมื่อเดือนกันยายน 2553 บีทีเอสซีได้มีการลงนามสั่งซื้อตู้รถไฟฟ้าจำนวน 35 ตู้จากกลุ่มซีเมนส์ เพื่อนำมาต่อพ่วงเข้ากับขบวนรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม 35 ขบวน ให้มีความยาวเพิ่มเป็นขบวนละ 4 ตู้ นอกจากนั้น บีทีเอสซีได้มีการเตรียมการสั่งซื้อรถไฟฟ้าใหม่อีกจำนวน 5 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ เพื่อรองรับส่วนต่อขยายสายสีลมจากวงเวียนใหญ่ไปบางหว้า ซึ่งจะทำให้ในอนาคต บีทีเอสซีมีขบวนรถไฟฟ้าทั้งสิ้นรวม 52 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวมทั้งสิ้น 208 ตู้ วิ่งให้บริการประชาชนในระบบ
ปัจจุบัน บีทีเอสซีมีรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 47 ขบวน ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าแบบขบวนละ 3 ตู้ จำนวน 35 ขบวน และขบวนละ 4 ตู้ จำนวน 12 ขบวน