บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ส่งผลให้สถานีฐานของทรูมูฟไม่สามารถใช้งานได้จำนวน 17 สถานี ส่วนใหญ่อยู่ใน จ.อยุธยา โดยทรูมูฟจัดเตรียมทีมงานพร้อมเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาเมื่อปริมาณน้ำเริ่มลดลง
สำหรับพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ทรูมูฟเตรียมแผนรองรับหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม โดยได้สำรวจสถานีฐานทั้งหมดและยกสถานีฐานที่อยู่ในจุดเสี่ยงที่น้ำจะท่วมถึงเรียบร้อยแล้ว ส่วนชุมสายหลักได้ทำแนวป้องกันน้ำท่วมสูง 2.5 เมตรและเตรียมเครื่องสูบน้ำกรณีมีน้ำรั่วเข้ามา มีการเตรียมเครื่องปั่นไฟสำรองไว้ กรณีมีการตัดไฟ และจัดเตรียมศูนย์ติดตามและเฝ้าระวังน้ำท่วมทำหน้าที่ดูแลสถานีฐานและโครงข่าย ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ทรูมูฟออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้แก่ หลังจากเติมเงินทันทีหมายเลขละ 20 บาท ให้ลูกค้าที่เงินค่าโทรหมด และอยู่ในจังหวัดที่มีน้ำท่วมขั้นวิกฤต 10 จังหวัด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2554 ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยังสามารถโทร *937# เพื่อขอค่าโทรช่วยเหลือฉุกเฉินได้อีกสัปดาห์ละ 20 บาท เมื่อเงินค่าโทรหมด
ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมครอบคลุม 28 จังหวัด ทรูมูฟยังเพิ่มวันใช้งานทันที 30 วัน ให้ลูกค้าแบบเติมเงิน และงดเว้นการระงับสัญญาณให้ลูกค้าแบบรายเดือนที่ไม่สามารถชำระค่าบริการรายเดือนได้ตามกำหนด ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2554
ทรูมูฟเปิดจุดบริการโทรฟรีทุกเครือข่าย ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและศูนย์อพยพต่างๆ อาทิ ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต, ศูนย์ดอนเมือง, มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ศูนย์อพยพ จ. ลพบุรี, อยุธยา เพื่อช่วยเหลือประชาชนและลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถติดต่อสื่อสารในช่วงภาวะฉุกเฉินและจำเป็น
ลูกค้าทรูมูฟส่ง SMS ฟรี! โดยพิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือส่งไปที่หมายเลข 4567892 ซึ่งทรูมูฟจะส่งข้อความไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ต่อไป นอกจากนี้ได้มอบซิมให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) จำนวน 50 ซิม พร้อมค่าโทรซิมละ 10,000 บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ติดต่อสื่อสารช่วยเหลือประชาชน