นางสาวรำภา คำหอมรื่น รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทอนุมัติแผนการเพิ่มทุนเพื่อระดมทุนไม่เกิน 25,000 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)เพื่อนำเงินไปชาระหนี้เงินกู้ที่บริษัทได้กู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัท เซ็นคาร์ จากัด (ผู้ประกอบกิจการห้าง Carrefour ในประเทศไทย) ที่จะครบกำหนดชาระคืนในช่วงเดือนมกราคม 2555 ทั้งนี้ บริษัทสามารถขยายระยะเวลาการชาระหนี้ได้อีก 6 เดือน
บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนจากปัจจุบันน 8,250,000,000 บาท เป็น 8,013,865,740 บาท โดยการยกเลิกหุ้นที่มิได้ออกจำหน่าย23,613,426 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียน 3,500,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 11,513,865,740 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 350,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 350 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วนไม่เกิน 2.2897 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ และในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเหลือจะเสนอขายหุ้นที่เหลือให้แก่นักลงทุนเฉพาะราย และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยการเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง ส่วนราคาขายและวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นจะกำหนดในภายหลัง
กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2554 ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2554 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น(Record Date) ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 พร้อมทั้งรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 และ 24 พฤศจิกายน 2554 ตามลำดับ
นายอีฟ เบรบ็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BIGC กล่าวว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้เป็นอีกก้าวที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของบิ๊กซี และเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินสูงขึ้น อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ในระยะยาวของผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าการเพิ่มทุนจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2554
Groupe Casino ซึ่งเป็นผู้นำด้านการค้าปลีกอาหารระดับโลก และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ BIGC ได้แสดงความประสงค์ที่จะใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิเต็มจำนวน สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเพิ่มทุน ซึ่งรวมถึงราคาเสนอขาย และจำนวนที่แน่นอนของหุ้นที่เสนอขายจะถูกกำหนดและแจ้งให้ทราบก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ทั้งนี้จำนวนหุ้นสามัญที่จะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 220-350 ล้านหุ้น
การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะเสริมสร้างให้บิ๊กซีก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกในประเทศไทย และเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยการเพิ่มเครือข่ายสาขาในรูปแบบต่างๆทั่วประเทศ ขยายรูปแบบธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจให้เช่าพื้นที่ไว้ด้วยกัน รวมถึงการพิจารณาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการอื่นในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
บริษัทฯจะแต่งตั้ง Credit Suisse เป็นผู้ประสานงานการจัดจำหน่ายและผู้นำการจัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ และ BNP Paribas, CLSA (Credit Agricole Group) และ Deutsche Bank เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ และ บล.บัวหลวง และ บล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายในประเทศ