นายขุมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนแผนงานหลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปีนี้ โดยเฉพาะรูปแบบโครงการที่จะมีการพัฒนาในช่วงต่อไป เพราะมองว่าโครงการประเภทคอนโดมิเนียมจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น จากก่อนหน้านี้หลายฝ่ายกังวลว่าคอนโดมีเนียมอาจล้นตลาด
ดังนั้น การศึกษาและจัดทำแผนการพัฒนาโครงการลงทุนใหม่ในปี 55 อาจเห็นการพัฒนาโครงการใหม่อย่างน้อย 1 โครงการ ขณะเดียวกันจะมีการเร่งขายโครงการเดิมๆที่มีอยู่เพื่อปิดโครงการ โดยขณะนี้บริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนากว่า 270 ไร่ อยู่ในทำเล ถ.สุวินทวงศ์ 100 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่สูงไม่เสี่ยงน้ำท่วม และที่ดินที่ จ.เชียงใหม่ อีก 170 ไร่
"อนาคตการลงทุนตอนนี้ก็ดูโปรเจ็คใหญ่ๆอยู่ แต่ก็ต้องดูบรรยากาศด้วย...ตอนนี้หลังน้ำท่วมบ้านเดี่ยวเยอะ คนก็หันมาสนใจคอนโดฯมากขึ้น ตอนนแนวคิดเปลี่ยนไป คนหันมาสนใจคอนโดฯ หรือซื้อบ้านต่างจังหวัดกันเพิ่มขึ้น มีหลายโลเคชั่น ทั้งเชียงใหม่ หัวหิน เขาใหญ่"นายขุมทรัพย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เลื่อนกำหนดเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว มายโฮม จ.เชียงใหม่ มูลค่า 1,500 ล้านบาทจากเดิมกำหนดเปิดพรีเซลล์ในไตรมาส 4/54 เลื่อนเป็นต้นปี 55 เนื่องจากติดปัญหาหลายเรื่อง และขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านตัวอย่าง
นายขุมทรัพย์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการในปี 54 บริษัทยังมั่นใจว่าจะพลิกเป็นกำไรประมาณ 100 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 39.11 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2/54 บริษัทมีกำไรจากการจากการปรับมาตรฐานบัญชีใหม่ ขณะที่ไตรมาส 3-4/54 จะมีผลขาดทุน ซึ่งมาจากค่า Operation และดอกเบี้ยจ่าย แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล
อนึ่ง ในไตรมาส 1/54 บริษัทขาดทุน 11.44 ล้านบาท ไตรมาส 2/54 มีกำไรสุทธิ 170.13 ล้านาท และไตรมาส 3/54 ขาดทุน 7.1 ล้านบาท
นายขุมทรัพย์ กล่าวถึงการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 611,993,964 หุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.65 บาทว่า น่าจะได้รับความสนใจจากผู้ถือหุ้นเดิมเนื่องจากเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และมี discount ถึง 10% จากมูลค่าหุ้นตามราคาตลาด
อย่างไรก็ตาม ความสนใจการซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมขึ้นอยู่กับบรรยากาศการลงทุนและสถานการณ์การลงทุนด้วย แต่บริษัทยืนยันว่าจะไม่เลื่อนการขายหุ้นเพิ่มทุนที่กำหนดจองและชำระเงินในช่วงเดือน มี.ค.55 หลังจากที่บริษัทได้เลื่อนการขายหุ้นเพิ่มดังกล่าวตามแผนเดิมในช่วง พ.ย.-ธ.ค.54 ขณะเดียวกันหากขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมไม่หมดก็สามารถขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงได้ (PP)
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าว ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น จำนวน 150 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการใหมๆ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะได้รับเงินเพิ่มทุนมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ถือหุ้น
"มองว่าผู้ถือหุ้นเดิมน่าจะสนใจซื้อ เพราะราคาหุ้นไม่แพง ตอนนี้หุ้นหลายตัวก็ตกมาเยอะแล้วด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงนั้นด้วย เพราะตอนนี้คนยังกังวลเรื่องน้ำท่วม และพอถึงช่วงจองซื้อหุ้นคนก็อาจจะเอาเงินไปทำอย่างอื่นหมด" นายขุมทรัพย์ กล่าว
ราคาหุ้น EVER เมื่อช่วงบ่ายเคลื่อนไหวที่ 0.67 บาท บวก 0.01 บาท (+1.52%)