นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW)เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ)จำนวน 200 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค.54 ราคาเสนอขาย 3 บาท/หุ้น ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดจากนักลงทุน เห็นได้จากการเปิดจองซื้อวันแรก มียอดจองเข้ามาล้นเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้แล้วจำนวนมาก
"นักลงทุนให้การตอบรับหุ้นไอพีโอ CHOW อย่างล้นหลาม ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดในการเปิดให้จองหุ้นวันแรก ซึ่งปัจจัยหลักคาดว่ามาจากความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจเหล็กต้นน้ำที่มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะจุดเด่นที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล บวกกับการที่ได้กำหนดช่วงราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 3 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาเหมาะสม มีส่วนลดให้นักลงทุนในระดับที่ดีถึง 28%" นางสาวพัชพร กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่หุ้น CHOW เข้าซื้อขายในกระดานจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากอาจมีนักลงทุนบางส่วนที่พลาดการจองซื้อหุ้นไอพีโอจะเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานแทน ซึ่งนักลงทุนดังกล่าวมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะมีนักลงทุนจำนวนมากที่ไม่ได้รับการจัดสรรหรือได้รับการจัดสรรไม่เต็มจำนวน รวมทั้งความต้องการหุ้นจากนักลงทุนทั่วไปที่ติดต่อเข้ามามีเป็นจำนวนมาก
ด้านนายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHOW กล่าวว่า บริษัทมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเหล็กแท่งยาวที่มีกำลังผลิตสูงที่สุดในประเทศ และสินค้าได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทของไทยที่เป็นสมาชิก LME ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้าระดับโลก ขณะเดียวกันธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตสูงตามความต้องการเหล็กต้นน้ำในประเทศที่ปัจจุบันยังต้องนำเข้าสุทธิปีละกว่า 1 ล้านตัน ทำให้บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กต้นน้ำเพื่อทดแทนการนำเข้ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
นอกจากนั้น อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้น จากการขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็คต์ และความต้องการใช้เหล็กเพื่อฟื้นฟูซ่อมแซมโครงสร้างต่างๆ หลังประสบปัญหาอุทกภัย จะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้บริษัทมีทิศทางการเติบโตชัดเจนและโดดเด่น โดยเงินทุนจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ CHOW นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจของบริษัทให้คล่องตัวและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตเหล็กแท่งยาวรายใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขาย CHOWจะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง