นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง(PSL)เปิดเผยว่า บริษัทลงนามในสัญญาแปลงหนี้ใหม่ (Novation Agreement) 1 ฉบับ กับ Global Bulk Carriers Pte. Ltd.ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหม่ เพื่อจำหน่ายสัญญาสั่งต่อเรือใหม่ 1 ฉบับให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่(หรือตัวแทน)สำหรับตัวเรือหมายเลข 333 ฉบับลงวันที่ 20 ก.ค.2550 ซึ่งบริษัทฯได้ทำสัญญาไปแล้วกับกับอู่ต่อเรือ ABG Shipyard เพื่อสั่งต่อเรือและส่งมอบเรือใหม่ 1 ลำสำหรับตัวเรือดังกล่าว
บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาแปลงหนี้ใหม่ (Novation Agreement) 1 ฉบับ เพื่อจำหน่ายสัญญาสั่งต่อเรือใหม่ 1 ฉบับกับผู้ซื้อรายใหม่ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2554 ซึ่งผู้ซื้อรายใหม่เป็นบริษัทจำกัดจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับบริษัทฯหรือบริษัทย่อยของบริษัทฯ ขณะที่อู่ต่อเรือ ABG Shipyard ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ต่อเรือภายใต้สัญญาสั่งต่อเรือใหม่ได้เข้าเป็นคู่สัญญาในสัญญาแปลงหนี้ใหม่ (Novation Agreement) นี้ด้วยเช่นกัน
การจำหน่ายสัญญาสั่งต่อเรือดังกล่าว เนื่องจากการประมาณเพื่อปรับเปลี่ยนกำหนดวันส่งมอบเรือภายใต้เงื่อนไขปัจจุบันของสัญญาสั่งต่อเรือใหม่ไม่เหมาะสมสำหรับบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯจึงเลือกที่จะจำหน่ายสัญญาสั่งต่อเรือเพราะการจำหน่ายสัญญาสั่งต่อเรือดังกล่าวภายใต้ เงื่อนไขเหล่านี้ จะทำให้บริษัทฯได้รับเงินงวดคืนเต็มจำนวนตามที่บริษัทฯได้ชำระให้กับอู่ต่อเรือพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.50 ต่อปี นับจากวันที่บริษัทฯได้ชำระเงินงวดไปแต่ละงวด พร้อมทั้งได้รับเงินเพิ่มอีกจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐต่อสัญญาสั่งต่อเรือหนึ่งฉบับ ซึ่งเงินได้จากการจำหน่ายสัญญาสั่งต่อเรือนี้ บริษัทฯจะนำมาใช้ในการซื้อเรือที่มีกำหนดการส่งมอบเรือที่มีความแน่นอนมากกว่าและอาจจะมีราคาที่ต่ำกว่า
สำหรับมูลค่ารวมของทรัพย์สินที่จำหน่าย กรณีได้รับเงินภายในวันที่กำหนดชำระเงินแรกในสัญญาแปลงหนี้ใหม่ (Novation Agreement) เท่ากับ 22.84 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 714.78 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ 31.295 บาท /1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ) แต่ กรณีได้รับเงินในวันสุดท้ายของช่วงขยายระยะเวลาการชำระเงินของสัญญาแปลงหนี้ใหม่(Novation Agreement) จะเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่จะได้รับของรายการเท่ากับ 22.91 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 716.97 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ 31.295 บาท /1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ)