บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลพบุรี โซล่าร์ ขนาดกำลังผลิต 55 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ และจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เมิ่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา
อนึ่ง EGCO ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด(NED) ในสัดส่วน 3.33% เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย และ NED ได้ลงนามสัญญาซื้อไฟฟ้าแบบ non-firm กับ กฟผ.
โรงไฟฟ้าลพบุรี โซล่าร์ ขนาด 73 เมกะวัตต์(DC)/55 เมกะวัตต์(AC) ซึ่งเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้เทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์แบบฟิล์มบางที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนแผงโซลาร์มากกว่า 520,000 แผง และมูลค่าโครงการประมาณ 8,000 ล้านบาท เริ่ม
นายสหัส ประทักษ์นุกูล ประธานกรรมการ บริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า“ลพบุรี โซลาร์ นับเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย ด้วยเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลก และเป็นโครงการที่มีส่วนร่วมในการช่วยประเทศไทยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 1.3 ล้านตันตลอดอายุการดำเนินโครงการ 25 ปี และช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงได้มากถึงปีละ 35,000 ตัน
นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้รับการรับรองการดำเนินโครงการภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism หรือ CDM) ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change หรือ UNFCCC) และจากความโดดเด่นในฐานะที่เป็นโครงการพลังงานสะอาดชั้นนำระดับโลก ‘ลพบุรี โซลาร์’ ยังได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ด้วย
นายวรมน ขำขนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลพบุรีโซล่าร์เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.ค.53 ซึ่งใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างจนถึงเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ราว 18 เดือน ดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญและทีมงานกว่า 1,400 คน คิดเป็นชั่วโมงการทำงานมากกว่า 4 ล้านชั่วโมง โดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน
สำหรับส่วนขยายเพิ่ม 11 เมกะวัตต์(DC)/8 เมกะวัตต์(AC) รวมเป็น 84 เมกะวัตต์ (DC) / 63 เมกะวัตต์ (AC) อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ซึ่งบริษัทคาดว่าจะพัฒนาแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.55 นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนบนพื้นที่ 760 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นสถานที่เรียนรู้เรื่องแหล่งพลังงานธรรมชาติ รวมถึงการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืนในประเทศไทย โดยกำหนดเปิดให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในช่วงกลางปี 55