นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์(APCO) เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 380 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายในตลาดต่างประเทศ 60 ล้านบาท โมเดิร์นเทรด 15 ล้านบาท ตัวแทนเครือข่าย 280 ล้านบาท ทีวีช้อปปิ้งและอื่นๆ 25 ล้านบาท
แผนดำเนินงานในเบื้องต้นจะเน้นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยในส่วนของตลาดในประเทศนอกเหนือจากช่องทางการจัดจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรดแล้ว จะมีการขยายช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศอย่างทั่วถึงผ่านทางศูนย์ BIMXPERT ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 100 ศูนย์ และมีเป้าขยายให้ครบ 900 ศูนย์ภายในปีนี้
ขณะที่ตลาดต่างประเทศบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนจำหน่าย เพื่อวางแผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ทั้งด้านสุขภาพและความงามในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนิเชีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2/55 นอกจากนี้บริษัทยังรอจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามกับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่น เยเมน ฟิลิปปินส์ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศดูไบ
นายพิชษฐ์ กล่าวถึงการที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงค่อนข้างมากในช่วง 2-3 วันทำการที่ผ่านมานั้น เชื่อว่าเกิดจากการเก็งกำไรของนักลงทุนที่เข้ามาซื้อขายในระยะสั้น โดยที่พนักงาน ผู้บริหาร ตลอดจนกลุ่มผู้ถือหุ้นของ APCO ไม่ได้มีการขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรตามกระแสข่าวลือ เนื่องจากยังติดเกณฑ์ไซเลนท์พีเรียดเป็นระยะเวลาเวลา 6 เดือน ขณะที่หุ้นของบริษัทเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น
“ปัจจัยพื้นฐานและการดำเนินงานของบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยแจ้งให้ทราบไว้ การที่ราคาหุ้นมีการปรับขึ้นลงค่อนข้างแรงเชื่อว่าเกิดจากการเก็งกำไรในระยะสั้น ดังนั้นนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นของ APCO ควรพิจารณาการลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ ผู้บริหารของบริษัททุกคนมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ในการที่จะทำให้บริษัทมีการเติบโตทางธุรกิจ และไม่ต้องการแสวงหากำไรจากราคาหุ้น"นายพิเชษฐ์ กล่าว