KBANK แฟคเตอริ่งฯตั้งเป้าลิสซิ่งเครื่องจักรปี 55 โต 25% ทะลุ 1 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 24, 2012 17:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศาศวัต วีระปรีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย (KF&E) ในเครือธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มยอดสินเชื่อคงค้างเป็น 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปี 54 ประมาณ 25% พร้อมทั้งมีเป้าหมายภายใน 2 ปีจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดลีสซิ่งเครื่องจักรของประเทศไทย

บริษัทมองว่าในปีนี้ความต้องการสินเชื่อลีสซิ่งเครื่องจักรจะมีสูงขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการ ขณะที่ภาคเอกชนก็มีโครงการก่อสร้างและลงทุนโครงการใหม่ ๆ รวมทั้งมีการซ่อมแซม หรือสั่งเครื่องจักรใหม่มาชดเชยส่วนที่เสียหายจากภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมา

ดังนั้น บริษัทจะใช้ 4 กลยุทธ์หลัก เจาะกลุ่มลูกค้าของเครือธนาคารกสิกรไทยและลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยกลยุทธ์ 1) การเข้าใจความต้องการของลูกค้า 2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า 3) การเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายการให้บริการและช่องทางการขายแบบมืออาชีพ 4) การบริหารความเสี่ยงเชิงบูรณาการ โดยจะให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจร่วมกับตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก KF&E ต้องการสนับสนุนตัวแทนฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทในตลาดลีสซิ่งเครื่องจักรและเป็นช่องทางให้ตัวแทนฯ สามารถขายเครื่องจักรให้กับลูกค้าได้ง่ายและเร็วขึ้น

บริษัทจะขยายความสัมพันธ์กับตัวแทนจำหน่ายฯ ให้ได้อย่างน้อย 120 ราย ในกลุ่มเครื่องจักรประเภทที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์(CNC) เครื่องพิมพ์ และเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น รถขุด รถตัก รถเครน พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ให้มากขึ้น เนื่องจากอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะเติบโตสูงในปีนี้

สำหรับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Multi-Corporate Business และ Large Corporate Business) จะเน้นการให้บริการลีสซิ่งเครื่องจักรให้ตรงกับความต้องการของแต่ละราย มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในลักษณะของ Structured Deal เช่น การปรับค่าเช่าให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดของลูกค้า การรับค่าเช่าเป็นเงินสกุลอื่น เพื่อตอบสนองความต้องการและโครงสร้างทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม

ส่วนกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (Medium & Small Business) บริษัทฯ จะเน้นให้ความรู้ในเรื่องประโยชน์ของการทำลีสซิ่งเครื่องจักรแก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการหาแหล่งเงินทุนในการซื้อเครื่องจักรใหม่ หรือในกรณีที่ลูกค้าต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจจากเครื่องจักรที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าปัจจุบันของเครือธนาคารกสิกรไทยหรือลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาใช้บริการ

ขณะที่ผลงานในปี 54 บริษัทฯ มียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 8,000 ล้านบาท จากปี 53 ที่มียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโตเกือบ 3 เท่าตัว โดยบริษัทก้าวเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 2 ของตลาดลีสซิ่งเครื่องจักร ด้วยการเน้นสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรรายใหญ่กว่า 50 ราย เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ทำให้ประสบความสำเร็จในการให้บริการลีสซิ่งเครื่องจักรกับลูกค้ารายใหญ่หลายราย เช่น บริษัทในเครือปูนซิเมนต์ รวมทั้งบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ ได้แก่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ