นายชัชพล ประสพโชค รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขายการตลาด และปฏิบัติการ บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บ-เบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์(UAC) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนสร้างโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัด(Compressed Bio-methane Gas:CBG) อีก 2-3 โครงการ โดยงบลงทุนประมาณ 50-100 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหาทำเลที่ตั้งโรงงาน และสำรวจวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนประมาณไตรมาส 3/2555
ทั้งนี้ บริษัทได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ให้ทำการออกแบบ Detail engineering แล้ว 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจาก Associated Gas จ.สุโขทัย ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท โดยคาดว่าต้นเดือน มี.ค.นี้จะได้ข้อสรุปเรื่องเงินลงทุน และผลตอบแทนการลงทุนที่ชัดเจน จากนั้นคาดว่าจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/55 และน่าจะมีรายได้จากโครงการนี้เฉลี่ยปีละประมาณ 200-250 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตก๊าซ CBG อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขนาดกำลังผลิต 6-8 ตัน/วัน หรือ ประมาณ 3,000 ตันต่อปีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในไตรมาส 2/55 เพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ และจำหน่ายให้ทาง บมจ.ปตท (PTT) โดยจะรับรู้รายได้ จากโครงการดังกล่าวภายในไตรมาส 3/55 เป็นต้นไป
นายชัชพล กล่าวถึงบริษัท ยูเอซี ยูทิลิตีส์ จำกัด (UAC UT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ว่า ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจน และสามารถทำสัญญาซื้อขายน้ำประปากับภาครัฐบาลได้ภายในไตรมาส 1/55 นอกจากนี้ UAC UT ยังมีแผนที่จะลงทุนแบบBOT (Build, Operate, Transfer) ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่เพิ่ม
นายชัชพล กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมปี 55 ที่ 1,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจเทรดดิ้ง (สารเคมี) ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก คิดเป็นสัดส่วน 85% ของรายได้รวม และบริษัทได้มีการนำสินค้าใหม่เข้ามา 4-5 รายการ เพื่อพัฒนาตลาด และขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น อาทิ น้ำยาแอร์ ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสินค้าดังกล่าวนำเข้ามาจากผู้ผลิตชั้นนำประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงระบบกำจัดไอระเหยที่จะลดปัญหามลพิษ (Emission) ของโรงงานต่างๆ เป็น ต้น ส่วนรายได้ที่เหลืออีก15% เป็นมาจากธุรกิจร่วมทุน
และจากแผนการขยายการลงทุนของบริษัทจะส่งผลให้อัตราการเติบโตของรายได้รวมในอีก 3 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 54 โดยรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ10 ต่อปี ขณะที่รายได้จากการร่วมลงทุนมีการขยายตัวเท่ากับธุรกิจเทรดดิ้ง