บมจ.ระยองเพียวริฟายเออร์(RPC)เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.ปตท (PTT)หยุดส่งวัตถุดิบให้แก่บริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 และเรื่องยังอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ทำให้บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องหยุดการผลิตลงอย่างไม่มีกำหนดเวลาตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 นั้นขณะนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อบริษัทฯ และบริษัทย่อยดังนี้ โดยบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องทยอยเลิกจ้างพนักงานโดยจ่ายค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน และปรับลดโครงสร้างองค์กรให้เล็กลงอย่างมาก (Down-Sizing) เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
บริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด (PBC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.99 ประกอบธุรกิจผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ส่งขายให้แก่บริษัทฯ เพื่อใช้ผสมในน้ำมันดีเซลของบริษัทฯ ต้องหยุดการผลิตอย่างไม่มีกำหนดตามไปด้วย เนื่องจากขาดลูกค้าหลักของ PBC คือบริษัทฯ PBC ได้ลดค่าใช้จ่ายทุกด้านเพื่อพยุงสภาพคล่อง โดยจะมีการเลิกจ้างพนักงานโดยจ่ายค่าชดเชย และจ่ายคืนหนี้ธนาคารเพื่อลดค่าดอกเบี้ยจ่าย
และ บริษัท เอสซีที ปิโตรเลียม จำกัด (SCT) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.99 และบริษัทในเครือ SCT อีก 6 บริษัทที่ SCT ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.86 รวมเป็น 7 บริษัทที่ประกอบธุรกิจค้าส่งน้ำมัน ต้องหยุดธุระกรรมซื้อขายลงโดยสิ้นเชิง และต้องเลิกจ้างพนักงานโดยจ่ายค่าชดเชยเช่นกัน
ส่วนบริษัทย่อย และบริษัทร่วมที่ยังคงดำเนินกิจการได้อย่างปกติ แม้จะมีปัญหาเรื่องแหล่งเงินทุนอยู่บ้าง มีดังนี้ คือ บริษัท เพียวพลังงานไทย จำกัด (PTEC) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.99 ประกอบธุรกิจค้าปลีก และสถานีบริการน้ำมัน, บริษัท จตุรทิศขนส่ง จำกัด (JTC) บริษัทย่อยของ SCT ที่ SCT ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.99 ประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมัน
บริษัท เอสซีที สหภัณฑ์ จำกัด (SAP) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 78 ประกอบธุรกิจขายอุปกรณ์เครื่องมือสถานีบริการน้ำมัน และให้บริการสร้าง และซ่อมบำรุงสถานีบริการน้ำมัน และ บริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSDC) บริษัทร่วมที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราส่วนร้อยละ 44.13 ประกอบธุรกิจศูนย์การค้าปลีก คอมมูนิตี้มอลล์ (Community Mall)