บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัท CPF Investment Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางตรงในสัดส่วนร้อยละ 100นั้น อีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,152 ล้านบาท ทำให้หลังการเพิ่มทุนจะมีทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทย่อยในต่างประเทศ
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 เพื่อพิจารณาอนุมัติการโอนกิจการบางส่วนของบริษัทภายใต้สายธุรกิจสัตว์บก ได้แก่ กิจการอาหารสัตว์ กิจการฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และ กิจการอาหารแปรรูปครบวงจร
รวมทั้งการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนที่มีอยู่ของกิจการดังกล่าวข้างต้น ให้กับบมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.98 โดยมูลค่าตามบัญชีของทรัพย์สินที่จะโอน ณ วันที่ 29 ก.พ. 55 มีจำนวนประมาณ 10,434 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมกาบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด(มหาชน) หรือ BKP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.44 มีมติอนุมัติการโอนกิจการบางส่วนของ BKP ให้แก่ กิจการอาหารสัตว์และกิจการอาหารแปรรูปครบวงจร รวมทั้งการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนที่มีอยู่ของกิจการดังกล่าวให้กับ บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) โดยมูลค่าตามบัญชีของทรัพย์สินที่จะโอน ณ วันที่ 29 ก.พ. 55 มีจำนวนประมาณ 4,678 ล้านบาท ซึ่งรายการดังกล่าวจะต้องเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ BKP เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
คณะกรรมการบริษัท CPF อนุมัติให้บริษัท และบริษัทย่อย คือ BKP ขายอเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท อลิอันซ์ พี.พี.ประกันภัย จำกัด ที่ถืออยู่ร้อยละ 18 และ ร้อยละ 6.50 ตามลำดับ รวมขายทั้งหมดจำนวน 7,350,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 12.75 บาท รวมเป็นเงิน 93,712,500 บาท ให้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CPG) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ทำให้หลังการขายหุ้น CPG จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็นร้อยละ 50 จากเดิมร้อยละ 25.5