นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทมั่นใจว่า ภาพรวมของธุรกิจยังมีอัตราการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขาย 30% หรือคิดเป็นรายได้กว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยการเติบโตหลักมาจากการธุรกิจแก๊สแอลพีจีในตลาดต่างประเทศ คิดเป็น 60% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมดในปีนี้
ส่วนการที่เศรษฐกิจประเทศจีนที่มีแนวโน้มชะลอความร้อนแรงลงนั้น บริษัทมองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจของบริษัทที่ได้เข้าไปลงทุนในประเทศจีน เนื่องจากคลังแก๊สแอลพีจี ที่ได้เข้าไปดำเนินการลงทุนผ่านบริษัทย่อยในจีน ได้แก่ บริษัทไซโน สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด หรือ SINO SIAM ที่เมืองจูไห่ และบริษัทสยาม โอเชี่ยน แก๊ส แอนด์ เอนเนอยี่ จำกัด หรือ SOGEL ที่เมืองซัวเถา สามารถเก็บแก๊สแอลพีจี รวมกันได้ถึง 300,000 ตันนั้น ไม่ได้รองรับความต้องการในประเทศจีนเป็นหลัก แต่เป็นคลังเก็บแก๊สแอลพีจีที่จะส่งออกไปขายยังประเทศอื่นๆ
"หากคิดเป็นสัดส่วนที่จะขายในจีนจากคลังแอลพีจี 2 แห่งนี้ น่าจะประมาณไม่เกิน 25% เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งยังคงมีปริมาณความต้องการใช้แก๊สแอลพีจีที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง" นางจินตณา กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ยังมีอัตราการเติบโตที่สูง และน่าจะเป็นผู้นำเศรษฐกิจของโลกต่อไปอีกหลายปี จึงเชื่อมั่นว่า การลงทุนในประเทศจีนนั้นเป็นทิศทางที่ถูกต้อง ส่วนความต้องการใช้แก๊สแอลพีจีนั้นไม่ลดน้อยลงแน่ๆ เนื่องจากต้นทุนในการใช้แอลพีจียังถือเป็นพลังงานที่มีต้นทุนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับพลังงานชนิดอื่นๆ จึงถูกนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนการใช้พลังงานชนิดอื่นเพิ่มมากขึ้น