"การลงทุนเพิ่มในส่วนการผลิตก็เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งจากการขยายธุรกิจในประเทศเอง การเพิ่มสินค้าไฮเทคโนโลยีลงสู่ตลาด และการขยายฐานธุรกิจออกสู่ต่างประเทศที่มีแนวโน้มเข้มข้นมากขึ้นหลังจากการเปิดเขตการค้าเสรีอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันนี้ถือได้ว่า L&E เป็นผู้นำทั้งในตลาดประเทศไทย และตลาดในภูมิภาคอาเซียน" นายปกรณ์ กล่าว
และ ในปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นลูกค้ากลุ่มโครงการ และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นผู้บริโภคโดยตรง ตลอดจนร้านค้าปลีกทั่วไป นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้เตรียมรวมชื่อสินค้า (Brand) จาก 9 แบรนด์ในปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 1 แบรนด์ภายใต้ชื่อ L&E ที่ลูกค้าในตลาดรู้จักและให้การยอมรับเป็นอย่างดี ซึ่งจะง่ายต่อการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภคและง่ายต่อการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศในอนาคตด้วย
และมุ่งพัฒนาสินค้าในกลุ่ม LED อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับเทคโนโลยีในอนาคตที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นสินค้าแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละปีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดและคาดว่าใน 2-3 ปีข่างหน้าหลอด LED จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในธุรกิจโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างทั้งระบบ โดบ ผลิตภัณฑ์ LED ของบริษัทในปี 54 มีอัตราการเติบโตถึงปีละเกือบ 100% มีสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้รวม และคาดว่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่นอีกครั้งในปี 55