นายอธิคม เติบศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวานนี้ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและซื้อขายหุ้น (Share Subscription and Purchase Agreement) และสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น (Shareholders Agreement) เพื่อเข้าร่วมลงทุนใน บริษัท อูเบะ เคมิคอลลส์ (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) (UCHA) ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วชของ UCHA คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 5,300 ล้านบาท ผ่านการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายโดย UCHA จำนวน 193,481,257 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมจาก UBE Industries, Ltd. จำนวน 75 ล้านหุ้น เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 268,481,257 หุ้น
ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิมใน UCHA เมื่อเงื่อนไขบังคับก่อน (conditions precedent) ตามที่กำหนดในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและซื้อขายหุ้น
อนึ่ง เมื่อคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ และบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิมใน UCHA เรียบร้อยแบ้ว บริษัทจะดำเนินการจะรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบโดยเร็ว UBE ผู้นำด้านการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของโลก ซึ่งเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศญี่ป่น (Tokyo Stock Exchange)
ส่วน UCHA เป็นนิติบุคคลในประเทศไทยและเป็นบริษทย่อยของ UBE ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จำนวน 8,804,437,660 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 880,443,766 หุ้น มูลค่าที่คราไว้หุ้นละ 10 บาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,739,250,230 บาท ภายหลังจากที่ UCHA เพิ่มทุนและเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่บริษัทแล้ว
โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ UCHA ณ วันที่ 11 พ.ค.55 มีบริษัท อูเบะ อินดัสตรีส์ ลิมิเต็ด ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 92.67 บริษัท มารูเบนี คอร์ปอเรชั่น สัดส่วนร้อยละ 5.49 และ ผู้ถือหุ้นรายอื่น สัดส่วนร้อยละ 1.84
UCHA ถือเป็นผู้นำในตลาดคาโปรแลคตัม และไนล่อน 6 ในระดับสากล โดย UCHA มีกำลังการผลิตคาโปรแลคตัม และ ไนล่อน 6 จำนวน 130,000 ตันต่อปี และ 75,000 ตันต่อปี ตามลำดับ โดยสินค้า 2 ชนิดดังกล่าวเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการผลิตของใช้ประจำวันที่จำเป็นหลายประเภท ได้แก่ พลาสติกวิศวกรรมที่ใช้เผลิต ชิ้นส่วนรถยนต์ ฟิล์มห่ออาหาร , Multifilament ใช้ในสิ่งทอ พรม เสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำ และ Monofilament ใช้ทำแหจับปลา ขนแปรงสีฟัน เป็นต้น
นอกจากนี้ UCHA ยังสามารถผลิต แอมโมเนีย ซัลเฟต ซึ่งเป็นผลผลิตพลอยได้ของกระบวนการผลิตคาโปรแลคตัม ในปริมาณ 540,000 ตันต่อปี โดยแอมโมเนียม ซัลเฟต เป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่มีการใช้อย่างแพร่หลายและมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย
จากงบการเงินของ UCHA สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 54 UCHA มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 1,772 ล้านบาท มีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิเท่ากับ 12,530 ล้านบาท
โรงงานผลิตของ UCHA ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของไออาร์พีซีในจังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด โดยประมาณ 220,000 ตารางเมตร อยู่ใกล้ท่าเรือขนส่งสินค้าของไออาร์พีซี ซึ่งทำให้ระบบการขนส่งเพื่อการนำเข้าวัตถุดิบหลักและส่งออกสินค้าของ UCHA มีประสิทธิภาพ
การเข้าร่วมลงทุนครั้ง บริษัท คาดว่า การลงทุนจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยเป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน และการดำเนินธุรกิจของบริษัท , การเริ่มต้นพัฒนาบริษัทเข้าสู่ธุรกิจพลาสติกวิศวกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น , สร้งโอกาสในการเพิ่มรายได้ จากการใช้ประโยชน์ในสินทรัพย์ที่มีอยู่ของบริษัท อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่นการให้บริการท่าเทียบเรือ ถังเก็บสินค้าและบริการอื่นๆ,
เป็นพันธมิตรร่วมทุนกับกลุ่ม UBE โดยใช้ความสามารถและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทในการพัฒนาธุรกิจ สร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่สนองควมต้องการของผู้บริโภคในอนาคต
สร้างโอกาสในการขยายธูรกิจต่อยอดจากโครงการ Phoenix ที่บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท นอกเหนือจากรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคต่างๆ
ร่วมกันจัดทำแผนบริหารจัดการชุมชนโดยรอบเขตประกอบการนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อชุมชน และสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางการค้าให้ขยายกว้างออกไปโดยผ่านความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าของทั้งบริษัท และกลุ่ม UBE ซึ่งนำไปสู่โอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ อันสอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท