CIRKIT ขอขยายเวลาฟื้นฟูกิจการฯอีก 1 ปี หลังกระทบหนักจากน้ำท่วม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2012 13:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์(CIRKIT) เปิดเผยว่า การขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการจากเดิมบริษัทฯจะต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในปี พ.ศ. 2562 แต่จากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปลายปีก่อน บริษัทฯ จำเป็นต้องขอขยายเวลาออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้บริษัทฯได้มีเวลาฟื้นฟูกิจการและสามารถชำระหนี้ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ในระหว่างจัดเตรียมข้อมูลให้ที่ปรึกษาการเงินเพื่อดำเนินการต่อไป คาดว่าจะสามารถสรุปผลและนัดประชุมเจ้าหนี้ภายในเดือนมิถุนายนนี้

ทั้งนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้ชี้แจงว่าบริษัทฯ อยู่ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด โดยได้บันทึกผลประโยชน์พนักงานเมื่อเลิกจ้างเป็นจำนวน 194.31 ล้านบาทนั้น

บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามว่า หลังจากน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ บริษัทฯ ได้มีการประเมินสถานการณ์ซึ่งในช่วงเวลานั้นบริษัทฯ ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกิจการให้กลับมาดำเนินกิจการได้หรือไม่ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่บริษัทฯ จำเป็นต้องติดต่อและวางแผน เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ในระยะยาวและเพื่อให้สามารถดำเนินการและชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกจิการไดสำเร็จ

บริษัทฯ จำเป็นต้องดำเนินการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด จำนวน 982 คน เนื่องจากบริษัทฯ ได้ประเมินความเสียหายเบื้องต้น คาดว่าจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี หากบริษัทฯต้องรับภาระจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานตลอดระยะเวลาดังกล่าว จะต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยกว่า 250 ล้านบาท และบริษัทฯ ไม่สามารถปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมได้ ซึ่งทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว

บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องประกาศเลิกจ้างพนักงานรายเดือนและผู้บริหารทั้งหมดในวันที่ 31 ธันวาคม 2554 และพนักงานรายวันทั้งหมดในวันที่ 6 มกราคม 2555 โดยจะต้องจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานและตามสัญญาจ้างทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 194.31 ล้านบาท เงินชดเชยจำนวนนี้รวมเงินชดเชยที่จะต้องจ่ายให้กับผู้บริหาร 3 ท่าน ตามสัญญาจ้าง 36 เดือน จำนวนเงิน 39.41 ล้านบาทแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้จ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานทั้งหมดไปบางส่วนจำนวน 3 เดือนเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2555 เป็นจำนวนเงินประมาณ 43 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงาน(พนักงานส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน) โดยส่วนที่เหลือ คาดว่าบริษัทฯจะขอความเห็นชอบพร้อมกับการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ ซึ่งคาดว่าจะประชุมเจ้าหนี้ภายในเดือน มิถุนายน 2555 และจ่ายให้พนักงานเมื่อได้รับเงินจากบริษัทประกันภัย

อย่างไรก็ตาม ได้มีพนักงานส่วนใหญ่ยื่นข้อเรียกร้องผ่านกรมแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่ศาลแรงงานภาค 1 ซึ่งขณะนี้ยังคงเป็นปัญหาที่กรมแรงงานจังหวัดฯ และที่ศาลแรงงาน

แต่ปัจจุบัน บริษัทได้มีการว่าจ้างพนักงานประมาณ 90 คน กลับเข้ามาทำงานเพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตให้กับลูกค้าที่มีความต้องการโดยเริ่มทยอยการจ้างงานตามความจเป็นตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ในส่วนผู้บริหารตั้งแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไปได้ปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาตั้งแต่เลิกจ้างเพื่อให้การฟื้นฟูเป็นผลสำเร็จ และเพิ่งได้รับการจ้างงานเป็นทางการเมื่อเดือน มีนาคม และ เมษายน

การจ้างงานจะเป็นไปตามความจำเป็นและเหมาะสมเพื่อให้โครงสร้างองค์กรมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยจะเพิ่มขึ้นตามความจำเป็นและสอดคล้องกับแผนฟื้นฟูกิจการเป็นระยะๆ จนกระทั่งสามารถเข้าสู่การดำเนินการตามปกติภายในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2556

ส่วนการฟื้นฟูกิจการเพื่อให้สามารถกลับเข้าสู่การดำเนินงานตามปกติ หลังจากได้ทำการติดต่อลูกค้าของบริษัทฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ทางด้านการตลาด ปรากฏว่าลูกค้ายังมีความต้องการและบางรายต้องการให้บริษัทฯ เริ่มเปิดดำเนินการโดยเร็ว บริษัทฯจึงได้วางแผนการฟื้นฟูบริษัทฯเป็น 2 ระยะดังนี้

ระยะที่ 1 เป็นการซ่อมแซมเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าให้กับลูกค้าที่ไม่มีแหล่งผลิตรายอื่น และมีความต้องการเร่งด่วน ปัจจุบันการฟื้นฟูระยะที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถผลิตและส่งออกให้ลูกค้าได้ และบางรายได้ส่งงานเข้ามาทดลองทำการผลิต และแจ้งความต้องการ(ประมาณการ) มาแล้ว คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 10 ล้านบาท/เดือน ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2555

ระยะที่ 2 เป็นการซ่อมแซมพื้นที่ที่เหลือทั้งหมด เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติ และเป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่าจะสามารถดำเนินการเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2556


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ