นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (กรุงศรี ออโต้) ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 55 บริษัทเติบโตสูงกว่าเป้าหมายในทุกด้านและยังคงเป็น ผู้นำตลาดธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจรที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มตามเป้าหมาย โดยมียอดสินเชื่อใหม่ 61,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 20% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2% และถือเป็นความสำเร็จที่สามารถสร้างยอดสินเชื่อใหม่ได้มากกว่าเดือนละ 10,000 ล้านบาทโดยเฉลี่ย
นอกจากการเร่งเปิดช่องทางให้บริการที่ตอบไลฟ์สไตล์ อีกทั้งนำนวัตกรรมไอทีมายกระดับบริการให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนในด้านความรวดเร็วของระบบอนุมัติสินเชื่อภายใน 15 นาที กรณีเอกสารครบถ้วน ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็มีอัตราการขยายตัวดีด้วย ซึ่งส่งผลให้บรรดาค่ายรถยนต์ต่างพร้อมใจกัน ส่งรถรุ่นใหม่ ออกสู่ตลาดโดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กหรืออีโคคาร์ และรถปิกอัพ รวมถึงโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล นับเป็นแรงส่งให้ยอดสินเชื่อรวม เติบโตต่อเนื่องไปอยู่ที่ 171,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%
ปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ มีลูกค้ารวมกว่า 850,000 ราย แยกเป็นสินเชื่อรถยนต์ใหม่ 50% สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว 45% และสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 5% ขณะที่สัดส่วนของสินเชื่อส่วนใหญ่มาจากช่องทางดีลเลอร์ซึ่งจับมือกันอยู่ทั่วประเทศจำนวนกว่า 5,300 ราย ในปีนี้เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกขึ้น จึงได้เปิดสาขาที่ 42 ขึ้นในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. รามอินทรา
รวมถึงการนำอุปกรณ์ “Krungsri Auto Card Reader" ที่สามารถประหยัดเวลาตั้งแต่ขั้นตอนการกรอกแบบฟอร์ม จนถึงการใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือและแท็บเล็ตพกพาที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการขายและรวบรวมข้อมูลประกอบการอนุมัติสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีรางวัลชนะเลิศ Thailand ICT Excellence Award ประเภทโครงการขับเคลื่อนทางธุรกิจ เป็นการันตี นับเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการที่ไม่หยุดยั้งเพื่อทำเรื่องเงินให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้า
สำหรับในไตรมาส 3/55 บริษัทจะนำระบบ iPartner ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการเชื่อมโยงข้อมูลออนไลน์ มาให้บริการดีลเลอร์ เพื่อให้การพิจารณาสินเชื่อยานยนต์มีขั้นตอนลดลง สามารถติดตามตรวจสอบขั้นตอน และผลการอนุมัติร่วมกันราวกับดีลเลอร์นั่งทำงานอยู่ในบริษัทด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถบริการลูกค้าได้รวดเร็ว สะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งล้วนสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจ
สำหรับเป้าหมายในครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่เพิ่มอีก 66,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ ณ สิ้นปี 2555 มียอดสินเชื่อรวมอยู่ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 28% และคาดว่าจะมีฐานลูกค้ารวม 910,000 ราย แบ่งเป็นลูกค้าในต่างจังหวัด 60% และ ลูกค้าในกรุงเทพฯ 40% และมั่นใจว่าด้วยเครดิตองค์กรระดับ A+ จากทริสเรตติ้งที่ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ในต้นปีนี้ ประกอบกับกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ใหม่จะได้การตอบรับที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ จากลูกค้า และบริษัทจะยังครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะในตลาดสินเชื่อรถใช้แล้วและรีไฟแนนซ์ที่ยังคงอันดับหนึ่งในขณะนี้