ตลท.รับ TVD เข้าเทรดตลาด mai ตั้งแต่ 23 ส.ค.ราคา IPO ที่ 2.10 บ./หุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 21, 2012 18:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ทีวี ไดเร็ค(TVD) จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เป็นบริษัทในธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มการเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นับเป็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการขยายกิจการไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งยังมีศักยภาพในการเติบโต

TVD ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการ ผ่านช่องทางการตลาดหลากหลายช่องทาง (Multichannel Marketing) เช่น Free TV Cable TV ร้านค้าปลีก TV Direct Showcase เป็นต้น ภายใต้แนวคิด "Entertaining People with Information" โดยมีสินค้ากว่า 1,500 รายการ และมีฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคนทั่วประเทศ

TVD มีทุนชำระแล้ว 188 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 318.08 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 57.92 ล้านหุ้น บริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 54.62 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 2.10 บาท และเสนอขายหุ้นแก่กรรมการและพนักงานของบริษัทจำนวน 3.3 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.68 บาท เมื่อวันที่ 14-16 สิงหาคม 2555 คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 120.24 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทย่อยและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยมีบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส และบล.โนมูระ พัฒนสิน

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD เปิดเผยว่า การระดมทุนผ่านตลาดทุนในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น และสามารถขยายเครือข่ายการประกอบธุรกิจในประเทศ และต่างประเทศที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งในประเทศกัมพูชา ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับการเปิดเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 58

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TVD 3 รายแรก ได้แก่ กลุ่มมัทธุรนนท์ ถือหุ้น 18.52% น.ส. อิสรา วิทยฐานกรณ์ ถือหุ้น 14.55% และ Mr. Lai Chien-Kuo ถือหุ้น 12.19%

ราคา IPO ของ TVD ราคาหุ้นละ 2.10 บาท มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) 23.33 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 4 ไตรมาสที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 เม.ย.54-31 มี.ค.55 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ซึ่งเท่ากับ 376 ล้านหุ้น คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.09 บาท บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 55% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะกิจการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ