นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ความเห็นชอบให้ทำการซื้อหุ้นสามัญของ 2 บริษัท คือ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด หรือ แกรนด์ยูฯ จำนวน 2 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 โดยเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นจำนวนดังกล่าวจากผู้ถือหุ้นเดิม คือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) และบริษัท เยาววงศ์โฮลดิง จำกัด ซึ่งจะทำให้บริษัท เป็นผู้ถือหุ้นทั้ง 100% ในแกรนด์ยูฯ
และให้บริษัทฯ เข้าทำคำเสนอซือหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บมจ. แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer - VTO) ประกอบด้วยหุ้น จะ เสนอซื้อในราคา 5.50 บาทต่อหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกเพื่อให้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ (Warrants) จะเสนอซือในราคา 2.50 บาทต่อหน่วย และให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาซื้อขายกับ Rock Key International Limited (RKIL) ซึ่งป็นผู้ถือหุ้นและ Warrants ของ GOLD โดย RKIL ตกลงที่จะขายหุ้นจำนวน 281.3 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 24.8 และ Warrants จำนวน 108.4 ล้านหน่วยให้แก่บริษัทฯ ในกระบวนการ VTO ในราคาเดียวกับราคาเสนอซื้อที่บริษัทฯ กำหนดไว้
ทั้งนี้การซื้อขายหุ้นและWarrants ของบริษัท ฯ ในการทำ VTO (รวมจำนวนที่ RKIL จะเสนอขายใน VTO ด้วย) จะเกิดเป็นผลสำเร็จขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบริษัทฯ จะต้องได้หุ้นสามัญมากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ GOLD และ การดำเนินการเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นและการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน ซึ่งบริษัทจะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 ตุลาคม 55
“การเข้าทำรายการในครั้งนี้นับเป็นก้าวกระโดดสำคัญของยูนิเวนเจอร์ที่จะขึ้นเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร และเป็นแผนกลยุทธ์สำคัญในการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยและเชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯเติบโตอย่างมั่นคงอันจะนำมาซึ่งประโยชน์ในระยะยาวของผู้ถือหุ้น" นางอรฤดี กล่าว
ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้น บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็นกลยุทธ์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นในตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตลอดการทำงานกว่า 67 ปี บริษัทก็ได้รับการสนับสนุนจากแอล.พี.เอ็น และกลุ่มเยาววงศ์ เป็นอย่างดี และนับเป็นความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จเป็นอันมาก แต่เมื่อบริษัทมีความต้องการที่จะขยายงานมากขึ้น จึงเสนอแผนการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของแกรนด์ยูฯ เพื่อรองรับกลยุทธของกลุ่มบริษัท
ส่วนการเสนอซื้อหุ้น GOLD นับเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอีกก้าว เพราะบริษัทได้เล็งเห็นศักยภาพและทรัพย์สินของ GOLD ที่จะช่วยเติมเต็มให้กับแผนธุรกิจของบริษัท และเชื่อมั่นว่าด้วยการบริหารจัดการและความพร้อมของแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ จะสามารถผลักดัน เพิ่มคุณค่า และพัฒนาทรัพย์สินของ GOLD ให้มีประสิทธิภาพและเติบโตขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำได้
สำหรับแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท 2 แห่ง จะมาจากการเพิ่มทุนของบริษัทฯ และคาดว่าจะต้องใช้เงินอย่างน้อยประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยจะเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยจำนวนหุ้นและราคาหุ้นจะได้มีการกำหนดชัดเจนหลังจากที่ได้รับการอนุมัติให้ทำรายการทั้สองจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท
อนึ่ง บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ฯ มีผู้ถือหุ้นหลักสามกลุ่ม คือ UV ปัจจุบันถือหุ้นร้อยละ 60 , LPN ถือหุ้นร้อยละ 20 และบริษัทเยาววงศ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 20 ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง คิดเป็นมูลค่าขายกว่า 10,000 ล้านบาท มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 600 ล้านบาท ส่วน GOLD ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 16,382 ล้านบาท