บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2555 มีมติให้บริษัท เข้าทำสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่—ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่- บางซื่อสัญญาที่ 4 สัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถ และซ่อมบำรุงรักษา (สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน)กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งมีอายุของสัญญารวม 30 ปีนับแต่วันที่ลงนามในสัญญาและมีมูลค่าของโครงการรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 80,365 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่ — ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ สัญญาที่ 4 เป็นสัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถ และซ่อมบำรุงรักษา(สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน) เป็นสัญญาในรูปแบบ PPP Gross Cost หรือเป็นการร่วมทุน ระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งมีลักษณะเป็นการที่รัฐเป็นผู้ลงทุนด้านงานโยธา และให้เอกชนลงทุนจัดหาและบำรุงรักษางานระบบรถไฟฟ้า รวมถึงจ้างเอกชนเดินรถไฟฟ้า โดยรายได้ค่าโดยสารทั้งหมดเป็นของรัฐและรัฐจะทยอยจ่ายคืนค่าลงทุนให้เอกชนในภายหลังเมื่องานก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งจ่ายค่าจ้าง เดินรถและค่าบำรุงรักษาให้เอกชนตามพื้นฐานของผลการดำเนินงานที่กำหนด (Performance BasedContract)
สัญญาสัมปทานนี้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 30 ปี โดยแบ่งเป็นสองระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบ การทำงานของอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้า และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการทดลองเดินรถไฟฟ้าให้มีความพร้อมอย่างสมบูรณ์เพื่อให้บริการแก่สาธารณชน จนสามารถเริ่มการให้บริการการเดินรถไฟฟ้าได้ โดยมีระยะเวลารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,200 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาสัมปทาน และระยะที่ 2 การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โดยมีระยะเวลานับตั้งแต่วันที่เริ่มการให้บริการเดินรถไฟฟ้าจนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน
ค่างานระยะที่ 1 จำนวนไม่เกิน 20,775 ล้านบาท (ค่าอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้า รวมกับค่าใช้จ่ายทางการเงินที่จะเกิดขึ้นทั้งในระหว่างงานในระยะที่ 1 ของสัญญา และระยะเวลาที่รฟม. จะทยอยชำระเงินค่าอุปกรณ์และระบบการเดินรถไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่บริษัท โอนกรรมสิทธิ์ในอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้าให้กับ รฟม. แล้ว แต่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยจะทยอยชำระให้กับบริษัท เป็นระยะเวลา 10 ปีภายหลังจากที่บริษัท ส่งมอบกรรมสิทธิ์ในอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้าให้กับ รฟม.แล้ว
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายทางการเงินเป็นตัวเลขจากการประมาณการในเบื้องต้น ค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงอาจเปลี่ยนแปลงตามงวดการเบิกจ่ายเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งเกิดขึ้นจริงในแต่ละขณะ ซึ่ง รฟม. จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งจำนวน
ค่างานระยะที่ 2 จำนวนไม่เกิน 59,590 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งจะทยอยชำระให้กับบริษัทตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดดำเนินการการให้บริการเดินรถไฟฟ้าจนกระทั่งสิ้นสุดอายุของสัญญาสัมปทาน ทั้งนี้ บริษัท สามารถปรับปรุงค่างานในระยะที่ 2 ตามอัตราเงินเฟ้อ และอัตราค่าไฟฟ้าตามที่เกิดขึ้นจริงเป็นรายเดือนตามวิธีการที่กำหนดในสัญญาสัมปทาน
เนื่องจากการเข้าทำสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีม่วงในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษารถไฟฟ้าสายสีม่วงจาก รฟม. ตามสัญญาสัมปทานเป็นระยะเวลาโดยประมาณ 26 ปี (อายุสัญญา 30 ปีนับจากวันลงนามในสัญญาหักด้วยระยะเวลาการ ดำเนินงานในระยะที่ 1 จำนวน 1,200 วัน
พร้อมกันนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในครั้งเดียวกันนี้จึงมีมติอนุมัติให้บริษัท ว่าจ้างบมจ.ช.การช่าง(CK) เป็นผู้บริหารโครงการในการ จัดหาระบบรถไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินรถไฟฟ้า ในลักษณะจ้างเหมาพร้อมจัดหาแหล่งเงินทุน(Engineering Procurement and Construction Contract) (“สัญญาว่าจ้างผู้บริหารโครงการ") โดยการจัดหาระบบรถไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์การเดินรถไฟฟ้าดังกล่าวจะต้องแล้วเสร็จในระยะเวลาไม่เกิน 1,200 วัน นับแต่วันที่ลงนามในสัญญาว่าจ้างผู้บริหารโครงการ
และเมื่อดำเนินการจัดหา ติดตั้ง และทดลองเดินรถไฟฟ้าเสร็จสิ้นลง CK จะดำเนินการโอนทรัพย์สินดังกล่าวให้กับบริษัท เพื่อให้บริษัท สามารถโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าวให้กับ รฟม. ได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาสัมปทาน และบริษัท ตกลงที่จะชำระราคาค่าทรัพย์สินดังกล่าวให้กับ ช.การช่าง โดยจะทยอยชำระคืนเป็นรายเดือนเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 10 ปี นับแต่วันที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ซึ่งสอดคล้องกับตารางการชำระเงินค่าจัดหาระบบรถไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์การเดินรถไฟฟ้าที่บริษัท จะได้รับจาก รฟม. ตามสัญญาสัมปทาน