นายสมจิตร ชัยชนะ กรรมการ บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2555 ประชุมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 อนุมัติยกเลิกการการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ส่วนที่เหลือ พร้อมการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้ออกจำหน่าย จำนวน 510,432,623 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ซึ่งยังไม่ได้จัดสรร
และอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 600,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,873,567,377 บาท (ทุนจดทะเบียนภายหลังการลดทุนจดทะเบียนแล้ว)เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 2,473,567,377 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,473,567,377 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 400,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
นอกจากนี้ได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยโดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 เพื่อดำเนินโครงการสวนน้ำและพลาซ่า (Plaza) ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 400,000,000 บาท โดยเรียกชำระเริ่มต้นร้อยละ 25 หรือคิดเป็น 100 ล้านบาท โดยธุรกิจสวนน้ำและพลาซ่า ชื่อโครงการ The Grand Kingdom มีงบลงทุนรวมไม่เกิน 800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทย่อยจะซื้อที่ดินจากนายณัฐภณ โทณะวนิก พื้นที่รวม 132 ไร่ 40 ตารางวา หรือ 52,840 ตารางวา ที่ถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีราคาซื้อขาย 396.30 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโครงการสวนน้ำและพลาซ่าซึ่งเป็นธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจหลักของบริษัทคือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ ลักษณะธุรกิจ โครงการ The Grand Kingdom มีลักษณะการดำเนินธุรกิจในรูปแบบสวนน้ำ ซึ่งมีรูปแบบของโครงการที่แตกต่างจากคู่แข่งขันของโครงการ และในโครงการจะมีพื้นที่พลาซ่าเพื่อให้เช่าแก่ร้านค้าปลีกสำหรับจำหน่ายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการในโครงการ โดยมีทำเลที่ตั้งอยู่ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งรายได้หลักของกิจการจะมาจากการจำหน่ายบัตรเพื่อใช้บริการสวนน้ำ อาหารและเครื่องดื่มและรายได้ค่าเช่าพื้นที่ในส่วนพลาซ่า โดยหลังจากรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาในการออกแบบและว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความเหมาะสมของขนาดโครงการและการลงทุน คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 3 /56 และโครงการดังกล่าวจะสามารถเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ประมาณไตรมาสที่ 3/58 เป็นต้นไป
บริษัทจะจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจสวนน้ำและพลาซ่าเป็นผู้บริหารงาน และบริษัทย่อยจะมีฐานะเป็นเจ้าของโครงการ ให้จัดจ้างผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศด้านธุรกิจสวนน้ำ สวนสนุก พลาซ่า มาศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมด้านขนาดโครงการและการลงทุน รวมถึงด้านบริหารในธุรกิจดังกล่าวก่อนการดำเนินโครงการ