"พลัส พร็อพเพอร์ตี้" มองแผนแม่บทภาครัฐช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯตามรอยต่อชายแดน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 24, 2012 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 55 เติบโตขึ้น เนื่องจากความมั่นใจของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติน้ำท่วม ประกอบกับ ผู้ประกอบการรายใหญ่ระดมเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง มีการอัดแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย ช่วยเสริมความคึกคักให้แก่ตลาด ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือแม้กระทั่งการซื้อเพื่อลงทุน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ในปีนี้สต็อกสินทรัพย์เพื่อเสนอขายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบมีจำนวนมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นในปี 56 ทั้งจากผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยจะขยายตัวจาก กทม.ไปสู่ปริมณฑล รวมถึงย่านชุมชนที่รายล้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครัน และจังหวัดที่แข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจทั่วประเทศ โดยกำลังซื้อหลักยังเป็นชาวไทยที่ประมาณ 95% ในขณะที่ต่างชาติอยู่ที่ 5%

"การที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ลงสนามระดับท้องถิ่นจะเป็นการสร้างมาตรฐานการขายใหม่ อาทิ ก่อนหน้านี้การทำโฆษณา หรือแม้แต่พัฒนาห้องตัวอย่าง เพื่อจำลองให้ลูกค้าได้เห็นอาจจะไม่มีความสำคัญในการขายระดับท้องถิ่นแต่ปัจจุบัน ความคิดเช่นนี้เปลี่ยนไปเพราะความครบสูตร ในเรื่องกลยุทธ์การขายได้จุดกระแสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวขึ้น ใครที่ต้องการขายได้ต้องไม่มองข้ามปัจจัย เหล่านี้"นายอนุกูล กล่าว

อย่างไรก็ตาม แผนแม่บทของภาครัฐในการพัฒนาประเทศถือเป็น ปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตของธุรกิจอสังหารมิทรัพย์ ซึ่งในอนาคตเชื่อมั่นว่าจะเกิดการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ขึ้นตามรอยต่อเมืองเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ จังหวัดทางภาคเหนือ ที่เชื่อมต่อพม่าตอนบน และจีน,จังหวัดในภาคตะวันตกที่เชื่อมต่อพม่าตอนล่าง, จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เชื่อมต่อลาว และจังหวัดในภาคตะวันออกที่เชื่อมต่อกัมพูชา ซึ่งภาพดังกล่าวจะชัดเจนขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้ารับกระแส AEC

ด้านนางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหม่เริ่มมองเห็น ความสำคัญของที่ปรึกษาด้านการขายแบบครบวงจรมากขึ้น และผู้ประกอบการหน้าใหม่ส่วนใหญ่มักจะเป็น ผู้ที่ขยายธุรกิจจากธุรกิจหลักที่มั่นคงแล้วมาสู่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีที่มาทางการเงิน ที่แข็งแกร่งกว่าในอดีตมาก รวมถึงมีการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบ

ปรากฎการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในธุรกิจบริหารงานขาย คือ ความแข็งแกร่งของ กลไกการพัฒนาแบบ 3 ประสาน ทั้งในส่วนของ ผู้ประกอบการ บริษัท ที่ปรึกษาด้านการขายและสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ที่ปัจจุบันแหล่งเงินมักให้ความสำคัญ และสนับสนุน ให้ผู้ประกอบการเลือก Sole Agency ที่มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จมายาวนาน เพื่อลดความเสี่ยง ในการขายโครงการ ซึ่งถือเป็นกลไกอัตโนมัติเบื้องต้นในการ สร้างความเชื่อมั่นแก่ทั้งผู้ประกอบการ และลูกค้าผู้ซื้อโครงการ ปัจจุบันการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ของผู้ประกอบการ รายย่อยจะกระจายตัวอยู่ในเขต รอบนอกกทม. เป็นส่วนใหญ่ รวมถึงในย่านเขต เศรษฐกิจใหม่

"กลยุทธ์การแก้วิกฤติด้านแรงงานและศักยภาพการควบคุมค่าใช้จ่าย คือ บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของธุรกิจบริการ ด้านอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต" นางสาวสมสกุล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ