คณะกรรมการบริษัทฯจะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลรวม 13 บาทต่อหุ้นในที่ประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 20
การเจริญเติบโตของตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศในปี 2555 คาดการณ์ว่าเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ12-13 เนื่องจากปัจจัยหลักจากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การขยายตัวทางการค้า และการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยอดขายปูนซีเมนต์ของบริษัทฯได้มีการเจริญเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดเช่นกัน ยอดขายในส่วนตลาดการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 20 รวมถึงการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงของยอดขายผลิตภัณฑ์อื่นๆของบริษัทฯได้แก่ ปูนสำเร็จรูป ธุรกิจหินทราย คอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้คอนวูด
ส่วนค่าใช้จ่ายในการผลิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ต้นทุนการจัดจาหน่ายและการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่าที่มีผลกระทบกับผู้รับเหมา แต่บริษัทฯ ก็ได้รับผลประโยชน์จากโครงการประหยัดพลังงานต่าง ๆ เช่นการผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนทิ้ง และการใช้พลังงานทดแทน
อย่างไรก็ตามราคาปูนซีเมนต์ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้เนื่องจากสภาพการแข่งขันในตลาด ส่งผลให้อัตรากาไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ลดลงเหลือร้อยละ 16.7 จากร้อยละ 19.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายจานวน 226 ล้านบาทที่เกิดจากการปิดบริษัทย่อยแห่งหนึ่งซึ่งส่งผลกระทบต่อกาไรสุทธิในงบการเงินของบริษัทฯ