ทั้งนี้ PTTEP เตรียมแผนลงทุนสำหรับโครงการดังกล่าวในปีนี้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท และปี 2557 กว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของ PAE ในปีนี้และในอนาคต เนื่องจากจะเริ่มรับรู้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2556 เป็นต้นไป
หลังจากบริษัทฯได้รับงานโครงการ S1 จะส่งผลให้มูลค่างานในมือ (backlog) เพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณร้อยละ 50 และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้หมดในปี 2558 สำหรับโครงการ S1 จะเริ่มบันทึกเป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2556 เป็นต้นไปและจะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปีนี้
นายรัตนพล กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยในปี 2556 จะมุ่งเน้นงานที่มีกำไรดี โดยเฉพาะโครงการ Oil& Gas ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ประมาณ 20-30% โดยได้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Oil & Gas ในปีนี้จะขยับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 จากปีก่อนที่มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 10-20 เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวมทั้งหมด
สำหรับรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปีนี้คาดว่าจะลดเหลือประมาณร้อยละ 30 จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้มากถึงร้อยละ 70 ซึ่งฐานที่ลดลงไม่ได้เกิดการการลดรับงานให้น้อยลง แต่เป็นเพราะฐานรายได้จะขยายตัวใหญ่ขึ้นอันมาจากการมุ่งรับงาน Oil & Gas เพิ่มมากขึ้น
"การมุ่งเน้นประมูลงานที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะงานในธุรกิจ Oil & Gas ที่ PAE มีความเชี่ยวชาญและทีมงานพร้อม ซึ่งเป็นงานถนัดของบริษัทอยู่แล้ว และมีชื่อเสียงในด้านนี้อยู่แล้ว ดังนั้นในปี 2556 จะเห็นการขยับตัวของ PAE ที่แตกต่างไปจากเดิม และเป็นไปในทางบวกแน่นอน" นายรัตนพล กล่าว