CI ขายกิจการโรงแรมศรีพันวาฯภูเก็ต มูลค่า 1.9 พันลบ. เข้ากองทุนรวมฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 15, 2013 08:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/56 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.56 มีมติอนุมัติให้บริษัท ชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยบริษัทถือหุ้น 80.04% ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สิน (อสังหาริทรัพย์และสังหาริมทรัพย์) ที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรมศรีพันวา รีสอร์ทแอนด์สปา ภูเก็ต และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โดยการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ทรัพย์สินอื่นที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจของโรงแรมศรีพันวา รีสอร์ทแอนด์สปา ภูเก็ต และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ประกอบด้วย ห้องพักเฟส 1-3 จำนวน 38 ยูนิต และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ 7 ยูนิต พร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้าง ระบบสาธารณูปโภค เฟอร์นิเจอร์ ทรัพย์สินติดตรึงตรา อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ในราคารวมประมาณ 1,978.43 ล้านบาท ให้แก่กองทุนรวมที่จะตั้งขึ้น

ทั้งนี้อนุมัติให้บริษัทและบริษัทย่อยเข้าลงทุนในกองทุนรวม โดยการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมประมาณ 60 ล้านหน่วย มูลค่าตราไว้หน่วยละ 10 บาท คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท หรือ 30% ของจำหน่วยหน่วยลงทุนของกองทุนรวม

อนุมัติบริษัทย่อยจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ซึ่งบริษัทย่อยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 99.99% โดยมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท เช่าทรัพย์สินระยะยาว (อสังหาริทรัพย์และสังหาริมทรัพย์) ที่กองทุนได้เข้าลงทุนในกิจการโรงแรมศรีพันวา รีสอร์ทแอนด์สปา ภูเก็ต และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ จากกองทุนรวม

มีมติให้บริษัทย่อยตกลงรับผิดร่วมกับ SPV ในฐานะลูกหนี้ชั้นต้นและลูกหนี้ร่วมในการชำระเงินค่าเช่าตามที่กำหนดในสัญญาเช่าทรัพย์สินให้แก่กองทุนรวมเพื่อให้กองทุนรวมมีรายได้ในอัตรารับประกันได้ แบ่งเป็นสองช่วง คือการรับประกันช่วงแรกเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันจัดตั้งกองทุนรวมได้ลงทุนในโครงการศรีพันวา และการรับประกันช่วงที่ 2 บริษัทย่อยตกลงรับผิดชอบเท่ากับส่วนต่างระหว่างผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงของ SPV ในปีที่ 5 เฉพาะที่เกิดจากทรัพย์สินที่กองทุนรวมลงทุน กับค่าเช่าในปีที่ 5 ที่ SPV ต้องชำระตามสัญญาเช่า

อย่างไรก็ตาม หากในเวลาใดในระหว่างการรับประกันช่วงที่ 2 ผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงของ SPV ในปีใดๆ เฉพาะที่เกิดจากทรัพย์สินที่กองทุนรวมลงทุนเท่ากับ หรือเกินกว่าค่าเช่าที่ต้องชำระตามสัญญาเช่าของปีนั้นๆ บริษัทย่อยจะดำเนินการโดย ในระหว่างการรับประกันช่วงแรก บริษัทย่อยและ/หรือบุคคล และ/หรือนิติบุคคล ที่กองทุนรวมเห็นชอบตกลง จัดให้มีหลักประกันแก่กองทุนรวม ซึ่งมีมูลค่า ณ ขณะใดขณะหนึ่งเท่ากับ 80 ล้านบาท และในระหว่างการรับประกันช่วงแรก บริษัทย่อยและ/หรือบุคคล และ/หรือนิติบุคคล ที่กองทุนรวมเห็นชอบตกลง จัดให้มีหลักประกันแก่กองทุนรวม ซึ่งมีมูลค่า ณ ขณะใดขณะหนึ่ง เท่ากับส่วนต่างค่าเช่า โดยกองทุนรวมไม่ต้องคืนหลักประกันที่ได้จัดให้แก่กองทุนรวมในการรับประกันช่วงแรก และให้ถือว่าหลักประกันเป็นหลักประกันต่อเนื่องสำหรับการรับประกันช่วงที่ 2 โดยปริยาย

นอกจากนี้ได้มีมิตให้บริษัทเข้าทำสัญญาตกลงชำระค่าเช่าส่วนที่ขาดกับกองทุนรวม โดยตลอดระยะเวลารับประกัน หาก SPV และบริษัทย่อย ไม่สามารถชำระค่าเช่าภายใต้สัญญาเช่าให้แก่กองทุนรวมได้ บริษัทตกลงรับค่าเช่าในส่วนที่ขาดให้กองทุนรวมต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ