การเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯได้รับเงินทั้งสิ้นจำนวน 735 ล้านบาท โดยจะจัดสรรเงินประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อที่ดิน และสร้างโรงถ่ายครบวงจร ครอบคลุม 3 สตูดิโอใหม่, โรงถ่ายใต้น้ำ, สถานที่ถ่ายทำ Outdoor, แวร์เฮ้าส์ และสำนักงานแห่งใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้ แล้วเสร็จในปี 58 และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
“จากการสำรวจความต้องการของนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจ นักลงทุนมีความสนใจในอนาคตของบริษัท ทำให้เราเชื่อมั่นว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ และจะทำให้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของ MATCH โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสตูดิโอครบวงจรก่อสร้างเสร็จในปี 2558 ซึ่งจะสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นทันทีในปีแรก จากการเป็นสตูดิโอครบวงจรแห่งแรก ที่เรียกได้ว่าเป็น Hub ของอาเซียน รับกับการเปิด AEC ที่จะทำให้ธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด"นายสมบุญกล่าว
ทางด้านบล.เอเซียพลัส(ASP) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ MATCH เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้พาผู้บริหารของ MATCH เดินทางนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนสถาบันเมื่อวันที่ 24-25 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 3.50 บาทถือว่ามีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ที่จะกลายเป็นผู้นำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาอย่างเต็มตัว และเทียบชั้นกับต่างประเทศ โดยหลังจากสตูดิโอครบวงจรสร้างเสร็จ และเริ่มให้บริการในปี 58 ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรและสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นในปีแรกทันที
นอกจากนั้น การเพิ่มทุนของ MATCH ในครั้งนี้ ยังถือเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายให้กับหุ้น MATCH โดย Free Float จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 11.5% เป็น 51.1%