ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 466,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายของบริษัทตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ในอัตราจัดสรรเท่ากับ 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน และกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา 2 บาท
พร้อมทั้งจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญที่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (METRO-W1) จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ 466,900,000 หน่วย ในอัตรา 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิม โดยไม่คิดมูลค่า จำนวนไม่เกิน 466,900,000 หุ้นในราคาใช้สิทธิ 1.20 บาทต่อหุ้น
นอกจากนั้น ยังมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัท จากเดิม "บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)" หรือในภาษาอังกฤษ "Metrostar Property Public Company Limited" เป็น "บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน)" หรือในภาษาอังกฤษ "Principal Capital Public Company Limited" และเปลี่ยนดวงตราสำคัญของบริษัทฯ รวมทั้งแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อดังกล่าว
และเปลี่ยนชื่อย่อของบริษัทฯสำหรับการติดต่อกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจากเดิม "METRO" เป็น "PRINC "
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท พริ้นซิเพิล อินเวสท์เมนท์ จำกัด เพื่อประกอบกิจการลงทุน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกในแต่ละธุรกิจ เพื่อเพิ่มผลประกอบการของบริษัทฯในอนาคต โดยจะจัดตั้งบริษัทดังกล่าวภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โครงสร้างการถือหุ้น METRO ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99
บริษัทฯกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 เวลา 14.00 น. สถานที่ประชุมอยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการบริษัทฯ โดยจะแจ้งให้ทราบภายหลัง โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 (Record Date) และ ให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 จนกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เพื่อชำระหนี้เงินกู้ของบริษัทฯจำนวนประมาณ 856 ล้านบาท เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯ เพื่อเป็นการขยายฐานทุนของบริษัทฯให้เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการลงทุนในอนาคต ในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจอื่นๆ จากจำนวนเงินที่เหลือจากการเพิ่มทุนและชำระหนี้แล้ว