TRUE ตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 7 หมื่นลบ./เล็งขายหุ้นบ.ย่อยที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 23, 2013 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเห็นชอบให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย เข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุน)ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกองทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน)

โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการเกี่ยวกับธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน มีดังต่อไปนี้

1.เห็นชอบให้เข้าทำรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ โดยบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย (1) ขายทรัพย์สิน รายได้บางรายการ และ/หรือ ให้เช่าทรัพย์สินบางรายการของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย ภายหลังจากที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นทรัพย์สินที่ลงทุนครั้งแรกของกองทุน และ (2) ขายทรัพย์สิน รายได้บางรายการ และ/หรือ ให้เช่าทรัพย์สินในอนาคตบางรายการของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย แก่กองทุน ภายหลังจากที่บริษัทฯ จำหน่ายทรัพย์สินที่ลงทุนครั้งแรกให้แก่กองทุนแล้ว (“ธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สิน")

2.เห็นชอบให้เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดย บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย เช่ากลับ (Leaseback) เช่า (Lease) และ/หรือ เช่าช่วง (Sublease) ทรัพย์สินจากกองทุน เพื่อใช้ทรัพย์สินดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจต่อไป (“ธุรกรรมเช่ากลับและเช่า/เช่าช่วง") และบริษัทฯ และ/หรือ นิติบุคคลที่บริษัทฯ กำหนดให้เป็นผู้ทำหน้าที่จองซื้อหน่วยลงทุน ทำการจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน เป็นจำนวนไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด(“ธุรกรรมจองซื้อหน่วยลงทุน")

การขายทรัพย์สินและรายได้และการให้เช่าทรัพย์สินแก่กองทุน จะมีมูลค่ารวมขนาดของรายการไม่น้อยกว่า 70,000 ล้านบาท (ทั้งนี้ ราคาขายทรัพย์สินจะขึ้นอยู่กับความสนใจ และความต้องการผลตอบแทนของนักลงทุน ตลอดจนสภาวะตลาด ณ เวลาที่ทำรายการ และตามที่บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยและกองทุนจะได้ตกลงกัน) และขนาดของรายการตามประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยอ้างอิงข้อมูลจากงบการเงินรวมฉบับสอบทานล่าสุดของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556

บริษัทฯ และ/หรือ นิติบุคคลที่บริษัทฯ กำหนดให้เป็นผู้ทำหน้าที่จองซื้อหน่วยลงทุนมีแผนที่จะจองซื้อหน่วยลงทุนจำนวนไม่เกินหนึ่งในสาม (หรือประมาณ ร้อยละ 33.33) ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนที่ออกจำหน่าย โดยจำนวนเงินจองซื้อขั้นต่ำเท่ากับ 70,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนเงินจองซื้อสุดท้ายขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้ายของหน่วยลงทุนของกองทุนซึ่งจะกำหนดโดยวิธีการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหน่วยลงทุนของนักลงทุนสถาบัน (bookbuilding) และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการเช่นสภาวะของตลาดในขณะนั้นและจำนวนเงินกู้ที่กองทุนจัดหาเพื่อซื้อทรัพย์สิน (หากมี) เป็นต้น

ทั้งนี้อนุมัติให้นำเสนอเรื่องต่อทีป่ระชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

อนุมัติให้แต่งตั้ง บริษัท เจวีเอส ที่ปรึกษาการเงิน จำกัด ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งจัดเตรียมเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นตามที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด

ในธุรกรรมการขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สิน ทรัพย์สินซึ่งจำหน่ายไปจะมีรายละเอียดดังนี้

1 ขายทรัพย์สิน (1) เสาโทรคมนาคม (ซึ่งรวมทั้งเสาที่ตั้งบนพื้นดินเสาที่ตั้งบนดาดฟ้าและโครงข่าย Distributed Antenna System) จำนวนประมาณ 13,000 เสา (2) โครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber OpticCable, “FOC") อุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ จำนวน 45,000 คอร์กิโลเมตร (core-km) และ 9,000 ลิ้งค์ และ (3) โครงข่ายบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด มีจำนวน 1.2 ล้านพอร์ต

2.ขายสิทธิรายได้ สิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้ที่เกิดจากการให้เช่าอุปกรณ์ 3G HSPA (Node B และอุปกรณ์โครงข่ายหลัก) จำนวน 13,500 สถานีฐาน

3.ให้เช่าทรัพย์สิน เสาโทรคมนาคม ไม่เกิน 100 เสา

ท้งนี้ ทรัพย์สินที่ขายให้แก่กองทุนเป็นทรัพย์สินสำหรับกิจการโครงสร้างพื้นฐานซึ่งสามารถใช้ร่วมกันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้ โดยบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยมีความตั้งใจจะเช่าทรัพย์สินที่ขายให้แก่กองทุนกลับมาเพื่อใช้ประโยชน์ ซึ่งมิใช่การเช่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ขายให้แก่กองทุนแต่จะเช่ากลับมาเฉพาะส่วนที่บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยต้องการใช้ประโยชน์เท่านั้น สำหรับทรัพย์สินส่วนที่บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยยังมิได้ใช้ประโยชน์นั้น กองทุนสามารถนำไปหาประโยชน์โดยการให้ผู้ประกอบการรายอื่นเช่าได้ทั้งนี้จะเป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไขที่ระบุในสัญญาเช่าหลักและสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยและกองทุนจะได้ตกลงกันเพื่อเข้าทำสัญญาดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ มูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการจำหน่ายไปในธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้และให้เช่าทรัพย์สินจะไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท โดยมูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการได้มาในธุรกรรมเช่ากลับและเช่า/เช่าช่วงจะไม่เกิน 55,000 ล้านบาท (ระยะเวลาการเช่าไม่เกิน 15 ปี)

บริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินรายได้ และ/หรือ การให้เช่าทรัพย์สินไปชำระหนี้สินบางส่วนซึ่งรวมถึงเงินกู้ที่บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยอาจนำเงินบางส่วนไปลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติให้ขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่มิใช่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจให้มีความชัดเจนและรองรับการจัดโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ ในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯสามารถลดค่าใช้จ่าย และ เงินลงทุนต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ