ทั้งนี้ บริษัทฯ มีประกันคุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินและธุรกิจหยุดชะงัก (Property Damage and Business Interruption Insurance Policy) ซึ่งครอบคลุมถึงกรณีที่บริษัทฯ ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุของผู้จำหน่ายวัตถุดิบ (Suppliers' Extension) ซึ่งในขณะนี้ บริษัทฯ และบริษัทประกันภัยอยู่ ระหว่างการประเมินมูลค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กำหนดแนวทางในการลดผลกระทบจากการหยุดโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ในเบื้องต้นดังนี้
1. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง ปตท. ในการจัดสรรก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ และ/หรือ การจัดหาวัตถุดิบก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม
2. จัดสรรปริมาณก๊าซธรรมชาติโดยเฉพาะก๊าซอีเทนระหว่างโรงโอเลฟินส์ของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สูงสุด และจัดสรรผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ของบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการผลิตทั้งผลิตภัณฑ์ต้นน้ำและปลายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และต่อลูกค้าของบริษัทฯให้น้อยที่สุดด้วย
อนึ่ง วันที่ 14 สิงหาคม 2556 เกิดฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก และมีอุบัติเหตุฟ้าผ่าที่อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจากไอเสียเครื่องยนต์ (WasteHeat Recovery Unit, WHRU) ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ของบมจ. ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นหน่วยผลิตวัตถุดิบก๊าซธรรมชาติให้กับโรงโอเลฟินส์ I4-2 ของบริษัทฯ (กำลังการผลิตโอเลฟินส์ 450 พันตันต่อปี) ส่งผลให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถเดินเครื่องได้จากการประเมินเบื้องต้นของ ปตท. คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมประมาณ 3 - 5 เดือน