ดังนั้น บริษัทจึงนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัทฯ จำนวน 30,681,530,080 หุ้น โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 0.0275 บาท/หุ้น และให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เกินสิทธิได้
และหากมีหุ้นคงเหลือจากการจัดสรรอยู่จำนวนเท่าใดอันเนื่องมาจากผู้ถือหุ้นเดิมสละสิทธิ หรือใช้สิทธิการจองซื้อไม่เต็มตามสัดส่วนของตน บริษัทจะนำหุ้นในส่วนที่เหลือไปรวมจัดสรรและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(PP)ในเงื่อนไขและในราคาเดียวกัน โดยในครั้งนี้ที่ประชุมยังได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 26,747,047,920 หุ้น จัดสรรและเสนอขายให้แก่ PP ราคาเสนอขายต้องไม่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นละ 0.025 บาท และกำหนดเงื่อนไขให้มีระยะเวลา Silent Period 2 ปี
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติการออกและการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 3,600,000,000 หน่วย ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (IEC - ESOP1)
สำหรับการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 6,102,857,800 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 10,103,582,200 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 16,206,440,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 61,028,578,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการแม่ระมาด จังหวัดตาก และโครงการแม่มาลัย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วงเงินรวมประมาณ 400 ล้านบาท
และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการโครงการธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( ICT) ในวงเงินประมาณ 200 ล้านบาท รวมทั้งใช้รองรับโครงการการลงทุนด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ( ICT ) ในวงเงินประมาณ 100 ล้านบาท และ เพื่อใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 300 ล้านบาท
อีกทั้งเพื่อใช้รองรับการลงทุนในพลังงานทางเลือกหรืออื่นๆ โดยจะต้องมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)ไม่ต่ำกว่า 12% และมีระยะเวลาคืนทุน(payback period)ไม่เกิน 7 ปี อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ และเพื่อสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในวงเงินรวมประมาณ 1,100 ล้านบาท