ขณะเดียวกันในไตรมาส 3/2556 มีกำไรสุทธิ 1,048 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/2555 ที่มีกำไรสุทธิ 1,734 ล้านบาท ลดลง 686 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2556 มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 747 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 789 ล้านบาท
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยไตรมาส 3/2556 อยู่ที่ 106.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2556 เฉลี่ยที่ 100.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากความกังวลต่อข่าวสหรัฐฯ จะใช้มาตรการทางทหารเพื่อตอบโต้ซีเรียที่ใช้อาวุธ เคมีปราบปรามประชาชน และสถานการณ์ความไม่สงบในอียิปต์
รายได้จากการขายสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2556 อยู่ที่ 71,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2555 จำนวน 777 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เป็นผลมาจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นจาก 16.75 ล้านบาร์เรล ในไตรมาส 3/2555 เป็น 17.63 ล้านบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ปรับลดลงร้อยละ 4
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 207,880 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 9,370 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4 เป็นผลมาจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับลดลงร้อยละ 8 ขณะที่ปริมาณขายรวมเพิ่มขึ้น 2.13 ล้านบาร์เรล หรือร้อยละ 4
ปริมาณการกลั่นสำหรับไตรมาส 3/2556 เฉลี่ยอยู่ที่ 179 พันบาร์เรลต่อวัน ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2555 ซึ่งปริมาณการกลั่นเฉลี่ย 178 พันบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าโรงงานต้องหยุดเดินเครื่องจักรหน่วยผลิตสไตรีนโมโนเมอร์ (EBSM) เพื่อเชื่อมต่อโรงงานส่วนขยายตามแผนการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 200,000 ตันต่อปีเป็น 260,000 ตันต่อปีในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2556 และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2556
อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 3/2556 มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) จำนวน 3,121 ล้านบาท (คิดเป็น 5.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ลดลงจากไตรมาส 3/2555 ที่มีจำนวน 3,341 ล้านบาท (คิดเป็น 6.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ขณะที่มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 5,417 ล้านบาท (คิดเป็น 10.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2555 ที่มีจำนวน 5,053 ล้านบาท (คิดเป็น 9.81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)
โดยมีกำไรจากสต๊อคน้ำมันและ Oil Hedging จำนวน 2,296 ล้านบาท (คิดเป็น 4.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ในขณะที่ไตรมาส 3/2555 มีกำไรสุทธิจากสต๊อคน้ำมันและ Oil Hedging จำนวน 477 ล้านบาท (คิดเป็น 0.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) และมีกำไรจากค่าเผื่อมูลค่าสินค้าลดลง (LCM) จำนวน 1,235 ล้านบาท (คิดเป็น 2.40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) จำนวน 10,904 ล้านบาท (คิดเป็น 7.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ขณะที่งวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 8,497 ล้านบาท (คิดเป็น 5.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ขณะที่มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 12,544 ล้านบาท (คิดเป็น 8.21 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีจำนวน 9,192 ล้านบาท (คิดเป็น 6.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) โดยมีกำไรจากสต๊อคน้ำมันและ Oil Hedging จำนวน 1,640 ล้านบาท (คิดเป็น 1.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ในขณะที่งวด 9 เดือนปี 2555 มีกำไรสุทธิจากสต๊อคน้ำมันและ Oil Hedging จำนวน 656 ล้านบาท (คิดเป็น 0.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) และมีกำไรจาก LCM จำนวน 39 ล้านบาท (คิดเป็น 0.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)