ทั้งนี้ ให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทในส่วนที่หุ้นยังไม่ได้จำหน่ายจำนวน 4,200,079,525 หุ้น จากนั้นเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 122,608,995,000 บาท จาก ทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 206,006,026,540 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 328,615,021,540 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน16,430,751,077 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 6,130,449,750 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท
ที่ประชุมอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,130,449,750 หุ้น โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม แบบ General mandate จำนวน 2,140,000,000 หุ้น จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 3,500,000,000 หุ้น และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2 (KMC-W2) จำนวน 490,449,750 หุ้น
นอกจากนั้น ยังอนุมัติลดทุนจดทะเบียนโดยการลดมูลค่าหุ้นจากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะสามารถทำให้บริษัทล้างขาดทุนสะสมได้เมื่อบริษัทมีผลกำไรบริษัทก็จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้