นอกจากนี้บริษัทฯ ยังพิจารณาถึงโอกาสที่จะต่อยอดจากธุรกิจเดิมและขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างผลประโยชน์ให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นตามช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมต่อไปในอนาคต ซึ่งหากบริษัทฯสามารถเพิ่มทุนได้ทั้งหมดตามที่เสนอ บริษัทฯ ประมาณการว่าจะมีจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 740 ล้านบาท บนสมมติฐานราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติ ซึ่งเท่ากับ 0.37 บาทต่อหุ้น
วัตถุประสงค์ในการใช้เงินเพิ่มทุนเพื่อการประกอบธุรกิจและรองรับการขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคม รวมถึงใช้ชำระหนี้สินในธุรกิจดังกล่าวประมาณ 150 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี จากการที่บริษัทฯ มีการวางแผนงานในการปรับปรุงตกแต่งสาขาเดิมที่มีอยู่ ขยายสาขาใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ รวมถึงการหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัทฯ
พร้อมทั้ง เพื่อการประกอบธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันบริษัทฯ มีแผนงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ โดยมีโครงการที่จะก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ดินติดชายทะเล บนเนื้อที่ประมาณ 384 ตารางวา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้บริษัทฯ ต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างประมาณกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่ดินบนสิทธิการเช่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการในนามของบริษัทย่อย (บริษัท ปิยะชาติจำกัด ) เป็นโครงการอาคารพาณิชย์ริมถนนรัชดาภิเษก จำนวนประมาณ 29 ห้อง ซึ่งต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทั้งสองโครงการเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องขอวงเงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วน และใช้เงินทุนของบริษัทฯ เองรวมกันประมาณ 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี
สำหรับนโยบายในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ตามที่คาดการณ์ไว้บริษัทฯ จะเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่เป็นจังหวัดใหญ่ จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือทำเลที่อยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนและการคมนาคมที่สะดวก
รวมทั้ง เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ประมาณ 30 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี จากการที่บริษัทฯ จำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้ใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีนโยบายมุ่งเน้นในการดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารโทรคมนาคมเป็นหลัก สำหรับการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยเสริมสร้างรายได้รวมและผลกำไรให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นต่อไป