ทั้งนี้ เงื่อนไขดังกล่าวคือ สปริงนิวส์ทีวีและสปริงนิวส์จะเป็นดำเนินการให้มีการเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านบาทให้แล้วเสร็จตามเงื่อนไข และความจำเป็นของสปริงนิวส์ทีวีก่อน ส่วนตงฮั้วจะใช้สิทธิซื้อหุ้นของสปริงนิวส์ทีวีจากทางสปริงนิวส์ได้ ก็ต่อเมื่อสปริงนิวส์ทีวีได้ดำเนินการบรรลุตามเงื่อนไขต่างๆ แล้ว
โดยตงฮั้วจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเข้าลงทุนหรือไม่อย่างไร โดยจะเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 25 แต่ไม่เกินร้อยละ 60 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทภายหลังการเพิ่มทุน ซึ่งตงฮั้วตกลงชำระเงินค่าหุ้นล่วงหน้าจำนวนเงิน 250 ล้านบาท ในกรณีที่จะได้มีการใช้สิทธิซื้อหุ้นในอนาคต
เงื่อนไขการเข้าลงทุนดังนี้
1. สปริงนิวส์ทีวี จะต้องดำเนินการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ (หมวดหมู่ช่องรายการข่าวสารและสาระ) ("ใบอนุญาต") ภายหลังจากการชำระค่าใบอนุญาตงวดที่หนึ่งแล้วเสร็จภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่ทาง กสทช.กำหนด
2. สปริงนิวส์ทีวี จะต้องดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วจากปัจจุบัน 5 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท ภายใน 30 กันยายน 2557
3. สปริงนิวส์ทีวี จะต้องให้สิทธิแก่บริษัท ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (First Right to Refusal) ในการเข้าซื้อหุ้นในสปริงนิวส์ทีวีได้จนถึงร้อยละ 60 ของทุนจดทะเบียนใดๆ ในราคาที่ตราไว้ (Par Value) ภายในกำหนดระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่ดำเนินการเพิ่มทุนและเรียกชำระแล้วเสร็จสิ้น
4. ในกรณีที่สปริงนิวส์ทีวี ไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้ ตงฮั้ว สามารถยกเลิกสัญญาจะเข้าร่วมลงทุน และเรียกเงินลงทุนทั้งหมดคืนพร้อมค่าเสียโอกาสร้อยละ 12 ต่อปี จากทางสปริงนิวส์
1) การได้ใบอนุญาตตามข้อ 2.1
2) การเพิ่มทุนตามข้อ 2.2
3) การรักษาส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ (Shareholders' Equity) ให้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วในปี 2557
คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ มีมติเห็นว่าการเข้าทำรายการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด คิดเป็นมูลค่ารวม 250,000,000 บาท มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถลดความเสี่ยงในการดำเนินการธุรกิจทีวีดิจิตอลและปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทฯ ไปในทิศทางตามเป้าหมายที่วางไว้