ทั้งนี้ นายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วง ได้แสดงเจตจำนงในการเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นของบริษัทที่คัดค้านการควบรวมบริษัท ในราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งสุดท้ายก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 ของบริษัท ราคารับซื้อจะไม่เกินกว่า 1 บาทต่อหุ้น และบริษัทแต่งตั้งบริษัท แคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจ จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระ เพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นในการพิจารณาลงมติเกี่ยวกับการควบบริษัท
สำหรับบริษัทใหม่จะมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 2,760,565,700 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจานวนทั้งสิ้น 2,760,565,700 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของ PICNI และของ WG รวมกัน
ปัจจุบัน PICNI มีทุนจดทะเบียน 2,000,005,320 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,000,005,320 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนชำระแล้ว 2,000,005,320 บาท ประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว ภายใต้เครื่องหมายการค้า "ปิคนิคแก๊ส" โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก๊าซปิโตรเลียมเหลวในลักษณะเป็น Bulk ให้กับสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว โรงงานอุตสาหกรรม โรงบรรจุก๊าซ
PICNI มีคลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว 2 แห่ง ได้แก่ คลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่อำเภอบางจะเกร็ง จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีความจุสูงสุด 1,870 ตัน และมีอัตราการจ่ายก๊าซสูงสุด 1,200 ตันต่อวัน จากจำนวนหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวทั้งหมด 6 หัวจ่าย และคลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ซึ่งมีความจุสูงสุด 180 ตัน และมีอัตราการจ่ายก๊าซสูงสุด 600 ตันต่อวัน จากจำนวนหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว 1 หัวจ่าย
ขณะที่มีบริษัทย่อยทั้งหมด 2 บริษัท ได้แก่ (1) Picnic Corporation (Singapore) Pte. Ltd. ประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว และ (2) บริษัท ปิคนิค มารีน จำกัด ประกอบธุรกิจบริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางเรือ และมีบริษัทร่วม 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า และพลังงานความร้อน
นอกจากนี้ PICNI มีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ด้วยการขยายฐานลูกค้าและมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนหัวจ่ายที่คลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ อำเภอบางจะเกร็ง จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายของ PICNI ในอนาคต
ส่วน WG ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 760,560,380 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญ 26,226,220 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 29 บาท และมีทุนชำระแล้ว 760,560,380 บาท ประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว ภายใต้เครื่องหมายการค้า "เวิลด์แก๊ส" โดยจำหน่ายให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว และโรงบรรจุก๊าซ
WG มีคลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว 2 แห่ง ได้แก่ คลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีความจุสูงสุด 2,780 ตัน และมีอัตราการจ่ายก๊าซสูงสุด 3,072 ตันต่อวัน จากหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวทั้งหมด 10 หัวจ่าย และมีคลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีความจุสูงสุด 60 ตัน และมีอัตราการจ่ายก๊าซสูงสุด 230 ตันต่อวัน จากหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว 1 หัวจ่าย
ทั้งนี้ WG มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ซึ่งได้แก่ (1) บริษัท อุตสาหกรรม เอส.ซี.เอส. จำกัด ประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว และ (2) บริษัท อีเกิ้ล อินเตอร์ทรานส์ จากัด ประกอบธุรกิจบริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว และมีบริษัทร่วมอีก 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท สอง ส. ปิโตรเลียม จำกัด ประกอบธุรกิจสถานีบริการ
นอกจากนี้ WG มีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องด้วยการขยายฐานลูกค้า และมีแผนที่จะสร้างคลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพิ่มอีกจานวน 4 แห่ง ได้แก่ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา, อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์, อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น เพื่อขยายจุดกระจายก๊าซและรองรับการเติบโตของยอดขายของ WG ในอนาคต
การควบบริษัทระหว่าง PICNI และ WG ถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ และเป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากการรวมธุรกิจ(Synergy) ขั้นตอนสำคัญที่ต้องมีการดำเนินการ คือ PICNI และ WG ดำเนินการขอความเห็นชอบจากเจ้าหนี้เงินกู้ยืมตามสัญญาเงินกู้ยืมกับสถาบันการเงิน หรือคู่สัญญาตามสัญญาใดๆ ที่อาจมีเหตุผิดนัดอันเนื่องมาจากการควบบริษัท
PICNI และ WG จัดประชุมผู้ถือหุ้น โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทต้องมีมติอนุมัติการควบบริษัท ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดย PICNI ต้องจัดให้มีผู้ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นของ PICNI ที่คัดค้านการควบบริษัท ช่วงเวลารับซื้อหุ้นทั้งหมด 14 วันนับแต่วันที่ผู้ถือหุ้นที่คัดค้านได้รับคำเสนอซื้อ
PICNI และ WG ต้องแจ้งให้เจ้าหนี้ (ทั้งเจ้าหนี้เงินกู้ยืม เจ้าหนี้การค้า หรือเจ้าหนี้อื่นๆ) ภายใน 14 วันนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ PICNI และ WG มีมติอนุมัติการควบบริษัท เกี่ยวกับการที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของตนมีมติควบบริษัทเพื่อให้เจ้าหนี้มีโอกาสคัดค้าน ซึ่งจะต้องกระทำภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ที่เจ้าหนี้ได้รับหนังสือแจ้งมติ และให้ PICNI และ WG มีหน้าที่ในการโฆษณามติทางหนังสือพิมพ์ภายในกำหนด 14 วันนั้นด้วย
จัดประชุมร่วมของผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัทเพื่อพิจารณาในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทใหม่ และเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นในการควบบริษัท (ถ้ามี) ทั้งนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ PICNI และ WG ได้มีมติอนุมัติการควบบริษัทเป็นรายหลังสุด เว้นแต่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมดังกล่าวลงมติให้ขยายเวลาออกไปแต่เมื่อรวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 1 ปี
ภายหลังจากการควบบริษัทและเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทใหม่จะต้องยื่นคำขอเพื่อให้พ้นเหตุเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อให้หุ้นสามัญของบริษัทใหม่กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกครั้งหนึ่ง